คำสอนพ่อ...สู่ศิลปิน SPICYDISC

60.5K View

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”

พระผู้เป็นแบบอย่างอันยิ่งใหญ่ให้กับคนไทย

ศิลปิน SPICYDISC ในฐานะผู้ทำงานเพลง และมีหน้าที่สร้างความสุขให้กับผู้ฟัง พวกเราได้ยึดหลักการดำรงชีวิตจากพระองค์ในหลายๆด้าน ดั่งลูกที่เชื่อฟัง’คำสอนของพ่อ’ตลอดไป

MILD

    “พอเพียง” ชีวิตเราไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่สุขสบายใจ ไม่เดือดร้อนใคร เท่านี้ก็มีความสุขมากแล้ว แค่เริ่มต้นจากตัวเรา เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการเดินตามรอยพ่อ 

    พวกเราน้อมนำวิธีการทรงงานของพ่อเป็นต้นแบบในการทำงานของพวกเรา พ่อไม่เคยเหน็ดเหนื่อยในการทำเพื่อคนไทยทุกคนเลยพวกเรารับรู้ได้ แล้วพวกเราจะละเลยได้อย่างไร




บอย ตรัย ภูมิรัตน

        พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีหลักคำสอนที่เป็นปรัชญาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง และเป็นแนวคิดที่สากลโลกให้การยอมรับ เพราะเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัย ที่รู้เท่าทันโลก นั่นคือ’ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง’ ที่พระองค์ทรงแนะแนวคนไทย และทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่าเมื่อดำรงชีพ ดำเนินชีวิตตามวิถีแห่งความพอดีนั้น ชีวิตจะพบกับความสุข นอกจากแค่ตัวเงิน แต่ยังมีความสุขใจด้วย เพราะไม่ต้องมีความกังวลมาก 

เมื่อมองลึกเข้าไปในหลักคิดของปรัชญญาเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว เราจะพบธรรมมะสองข้อ ที่เป็นแกนหลัก นั่นคือ การเดินทางสายกลาง และ การพึ่งตนเอง ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นแนวคิดที่เราสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตและการทำงานได้ทุกคน การรู้จักประมาณตน รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ หรือทำอะไรไม่ได้ สิ่งใดมากเกินไป สิ่งนี้น้อยไปแล้ว แค่ไหนคือพอดี ใช้ชีวิตแบบหาจุดสมดุลของจิตใจเราให้เจอ ค่อยๆ ถอด ค่อยๆ ลอกสิ่งที่เกินความต้องการ หรือสิ่งไม่จำเป็นออกไป น่าจะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข 

        รวมถึงตระหนักในหน้าที่ทั้งส่วนตน และส่วนรวม ปรับตัวเองจากภายใน ยึดโยงกับสังคมภายนอก เชื่อว่าสิ่งที่พ่อหลวงของเราทรงอยากจะเห็นที่สุด คือการที่เราคนไทยทุกคนได้มีความสุข มีรอยยิ้มได้ทุกๆ วัน และได้ร่วมมือร่วมใจกัน นำพาประเทศพัฒนาไปข้างหน้า และวิธีที่จะเป็นแบบนั้นได้ พระองค์ท่านได้ทรงแนะแนวไว้หมดแล้ว รอให้เราลงมือทำ




ก้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ

คำสอนที่ยึดถือปฏิบัติเพื่อให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คือ พระราชดำรัสที่ว่า “ความสามัคคี หมายถึง ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม แม้จะขัดแย้งกันบ้างก็ต้องปรองดองกันเสีย”




The Parkinson

    ตั้งแต่จำความได้ ก็เห็นท่านทรงงานหนักมากๆ ไปทุกที่ในประเทศ ช่วยคนยากจนและเกษตรกร ทั้งยังมีโครงการต่างๆอีกหลายพันโครงการ คงไม่มีกษัตริย์ในโลกองค์ไหนที่จะเป็นแบบนี้อีกแล้ว  แม้จะเสียใจมากเพียงไหน เราก็จะนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับตัวเองและบ้านเมือง

    "ในหลวงรัชกาลที่​ 9 คือแบบอย่างในการจัดสรรเวลา และความเพียร"    

    พระองค์ทรงมีพระอัฉริยภาพทางด้านดนตรีเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็มีพระราชกรณียกิจมากมายเช่นกัน จึงไม่ใช่ข้ออ้างเลยที่จะบอกว่าเราไม่มีเวลา หรือไม่มีพรสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้เห็นแล้ว เพราะฉนั้นหากเราทุกคนตั้งใจทำสิ่งใดก็ควรจะมีความตั้งใจทำให้ดี ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะดีเช่นกัน




The Rube 

"ดนตรีไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ย่อมมีมูลค่าในแนวนั้นๆ" สำหรับพวกเรามูลค่าที่ได้จากดนตรีคือมิตรภาพ

เก็ท ศิวพงษ์ เหมวงศ์

“เอาความมุมานะพยายามของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นตัวอย่าง” ถ้าเราไม่หยุดทำเพลงมันต้องมีสักวันนึงที่เพลงเราจะเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จ

จุ๊บ ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์

"คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้" ขนาดเศษเหล็กที่ไม่มีค่า เอามารวมกันยังสามารถตีเป็นดาบได้ เอาดาบมาแกะสลักให้มีมูลค่าได้ คนเราอาจจะเกิดในที่ที่ไม่ดี แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้

น๊อต ทรงพล ศรีสะอาด

"อ่อนโยนได้ แต่อย่าอ่อนแอ"

เวลาทำงานเราต้องใช้ความอ่อนโยนกับ เพื่อน พี่ น้อง ระหว่างทางการทำวงแน่นอนว่าจะทะเลาะกันบ่อยมาก แต่เราก็ใช้ความเข้มแข็งผ่าอุปสรรคต่างๆ จนมี The Rube ในวันนี้

เจน ณัชรพงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ 

"ถ้าลูกประพฤติดี ก็จะได้พบกับคนที่ประพฤติดีกับเรา" ขอให้เราเลือกคบคนให้ถูก และประพฤติดีกับทุกคน สิ่งเราได้กลับมาก็คือความดี




Helmetheads

        คำสอนของพ่อหลวงที่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันได้ คือ "การคิดก่อนพูด" ในยุคนี้ที่เต็มไปด้วยความรวดเร็วในการสื่อสารโดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้คนเราพูดเร็วกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นคำพูดจากปากหรือคำพูดที่เป็นตัวหนังสือ คำสอนนี้ทำให้เราต้องหยุดคิด รวบรวมสติ คิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ไตร่ตรองก่อนที่จะพูดอะไรออกมา ดังคำสอนที่ว่า "ฟังได้ เข้าใจง่าย ชัดเจน ไม่ผิดทั้งหลักวิชาและทั้งหลักคุณธรรม"




Nap A Lean

        พระราชดำรัสที่พวกเรายึดถือคือ ‘เรื่องความสามัคคี’ เนื่องด้วยเหตุการณ์บ้านเมืองที่มีความไม่เรียบร้อย ทุกฝ่ายจึงควรนำหลักความสามัคคีมาปฏิบัติใช้ให้บ้านเมืองเราผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ 

ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใหญ่ ชุมชน ครอบครัว หรือแม้แต่วงดนตรีเล็กๆ การที่มีคนหลายๆ คนมารวมกัน ย่อมมีความความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่ถ้าทุกคนยึดถือเป้าหมาย หรือผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ดำเนินชีวิตด้วยหลักความสามัคคี เราก็จะสามารถผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้ร่วมกัน




Rooftop
            พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของความรัก และความเมตตาต่อประชาชนของท่านเสมอ พวกผมจึงรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเราชาวไทยที่จะทำหน้าที่ของลูกที่รักกัน สามัคคีกัน สืบสานสิ่งที่พระองค์ทรงหวังไว้ให้พระองค์ที่อยู่บนฟ้าได้มองลงมาแล้วมีความสุขที่เห็นเรารักกัน


Morning Soon
        พระบรมราโชวาทหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับดนตรีของพระองค์ว่า "ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะแจ๊สหรือไม่แจ๊สก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้าดนตรีคือสิ่งประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยมคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภทต่างก็มีความเหมาะสมตามโอกาส และอารมณ์ที่แตกต่างกันไป"
        ที่เราต้องการจะสื่อ คือ พวกเราเรียนจบแจ๊สมา แต่พวกเราพยายามฟัง เรียนรู้ และเล่นดนตรีทุกๆ แนวโดยคำนึงถึงความสุขต่อผู้ฟัง เพราะ อย่างไรดนตรีทุกประเภทล้วนมีคุณค่าในตัวเอง



Aomsin & The Boys
            สิ่งที่วงนำคำสอนของในหลวง ร.9 มาปรับใช้มากที่สุดคือ เรื่องของ "ความเพียร" ในฐานะนักดนตรี เรามีความตั้งใจที่จะฝึกฝนตัวเอง และทำผลงานของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด และพวกเราเชื่อว่าถ้าทุกคนมีความเพียรในหน้าที่ของตัวเองตามที่พระองค์ท่านได้ตรัสไว้ ก็จะส่งผลดีต่อตัวเราเอง และส่วนรวมด้วยเช่นกัน