แตะมือผลัดจากไม้กลองมารีดนมวัว ซัม Helmetheads
อาชีพในฝันของเด็กๆ ที่เราได้ยินจนชินคงไม่พ้น หมอ พยาบาล ครู ทหาร ตำรวจ และศิลปิน/ ดารา ‘ซัม - สดายุ สุวรรณจุณีย์’ มือกลอง จาก Helmetheads ก็เป็นหนึ่งในเด็กช่างฝัน ที่ได้เป็นนักดนตรีอาชีพตามที่วาดฝันไว้ ที่น่าแปลกใจคือ วันนี้เขาเลือกเป็นเกษตรกรไปพร้อมกับการเล่นดนตรีอาชีพ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำงานให้ออกมาดีทั้ง 2 หน้าที่ เรื่องราวของนักดนตรีอาชีพกับเกษตรกรฝึกหัดจะเป็นยังไง เจ้าตัวได้เล่าเอาไว้แล้ว
ที่มาของ “บ้านฟาร์ม Organic Farm”
ซัม : เริ่มต้นมาจากคุณพ่อครับ ช่วงนั้นเขาเพิ่งเกษียณจากราชการ และพอดีว่ามีที่ดินว่างอยู่ที่จังหวัดลพบุรี ก็เลยได้มาคุยกันในครอบครัวว่าจะทำเกษตรกรรมอะไรดี พ่อเขาเห็นว่าการเลี้ยงวัวนมมันมีรายได้ค่อนข้างดี จากการขายน้ำนมดิบ เลยตัดสินใจทำฟาร์มโคนม
ตอนนี้ทำบ้านฟาร์มมาได้ ประมาณ 3 ปีแล้วครับ
ยังวัยรุ่นอยู่เลยทำไมถึงสนใจการทำเกษตรกรรม โดนบังคับรึเปล่า?
ซัม : ไม่ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าพ่ออยากทำ เราก็รู้สึกอยากทำและตื่นเต้นไปกับพ่อด้วย แล้วสมัยนี้ผมเห็นคนที่เป็นรุ่นเดียวกันกับผมหรือบางคนอายุน้อยกว่าด้วยซ้ำ เริ่มเข้าไปทำการเกษตรเยอะขึ้น เหมือนกับว่าตอนนี้อะไรๆ เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว คนไม่ค่อยยึดติดกับเรื่องอาชีพการงาน ชอบที่จะทำงานอิสระ ที่จริงการทำฟาร์มก็ไม่ได้อิสระ 100% แต่มันคือการลองทำอะไรใหม่ๆ มากกว่า
“ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าเรารักสัตว์อย่างเดียว”
เลือกทำฟาร์มโคนมเพราะมีความรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?
ซัม : ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่าเรารักสัตว์อย่างเดียว (หัวเราะ) แต่ว่าการหาข้อมูลมันไม่ยาก เพราะแต่ละจังหวัดจะมีองค์กรที่คอยให้ความรู้ทางด้านนี้อยู่ เราก็เข้าไปหาความรู้จากตรงนั้นก่อน มีการอบรมในเรื่องต่างๆ ทั้งพื้นฐานการเลี้ยงวัวนม การผสมพันธุ์วัวนม ฯ พ่อจะเป็นคนเข้าไปอบรมก่อน เหมือนไปกรุยทางไว้ให้ คืออบรมครั้งหนึ่งใช้เวลา 9 - 10 วัน เราก็จะหาวันที่ว่างตามเข้าไปอบรมด้วย ได้ความรู้เยอะเลยจากตรงนี้ เพราะว่าจะมีเพื่อนๆ ที่ทำฟาร์มอื่นๆ มาคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน
อนาคตของบ้านฟาร์ม…
ซัม : มีคิดๆ เอาไว้บ้าง ด้วยความที่พ่อค่อนข้างที่จะไม่ทำอะไรนอกกรอบ ก็จะเลี้ยงวัว ให้อาหาร ส่งนมขาย วนอยู่แค่นี้ แต่ว่าจริงๆ แล้วมันสามารถเอาความรู้เรื่องธุรกิจมาพัฒนาได้ เราเห็นหลายคนผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง ก็ตั้งใจว่าอยากจะทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นของตัวเองด้วย อีกอย่างคือพื้นที่ในฟาร์มมีเยอะมาก ก็อยากทำฟาร์มให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่ต้องหาช่องทางก่อน (หัวเราะ)
“อยากให้มันเป็นฟาร์มคูลๆ เราก็ต้องหาอะไรที่ไม่จำเจ และไม่ซ้ำกับใคร”
จัดเวลาให้การทำฟาร์มกับการเล่นดนตรียังไง
ซัม : ช่วงที่ทำฟาร์มแรกๆ มีปัญหาเรื่องแบ่งเวลาเหมือนกัน ต้องคอยสลับกับคุณพ่อเข้าไปดูฟาร์มอยู่เรื่อยๆ มันค่อนข้างยากนะ เพราะว่า 2 อาชีพนี้ค่อนข้างต่างกันมาก เอาแค่เรื่องเวลาตื่นกับเวลาเข้านอนก็ต่างกันแล้ว ถ้าเป็นเกษตรกรเราต้องตื่นเช้ามากและต้องเข้านอนเร็ว แต่เป็นนักดนตรีกว่าจะนอนก็เช้าละ ตื่นมาตอนบ่ายก็มี ต้องปรับตัวเยอะพอสมควร
ทั้ง 2 หน้าที่มีความสนุกเหมือนหรือต่างกัน
ซัม : ต่างกันแน่นอน การทำฟาร์มเราคือเกษตรกรทุกอย่างมีขั้นตอนชัดเจนมาก ตี 4 ต้องตื่นมารีดนมวัว และต้องรีดให้เสร็จไม่เกินตี 5 ด้วย เพราะต้องเอาน้ำนมไปส่งไม่เกิน 8 โมง ส่งน้ำนมเสร็จก็ต้องกลับมาให้อาหารเขาต่อ ช่วงเที่ยงเราถึงจะมีเวลาพักผ่อนพอบ่าย 2 ก็เริ่มทำอีก มันจะเป็นอย่างนี้ทุกๆ วัน ไม่มีวันหยุด
ส่วนเรื่องดนตรีคือความชอบ เริ่มมาจากความอยากเล่นดนตรีเหมือนเด็กๆ ทั่วไป ช่วง ม.ปลายก็รู้สึกว่าอยากจะจริงจังในทางนี้ที่บ้านก็สนับสนุน เราก็เลือกเรียน คณะดนตรี สาขาวิชาการแสดงดนตรี jazz performance มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตอนนี้เราเรียนต่อปริญญาโทด้วยที่วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต เอกดนตรี jazz เหมือนกัน แต่ยังไม่จบ (หัวเราะ)
เคยเล่นดนตรีให้วัวฟังบ้างไหม?
ซัม : ไม่เคยเลย (หัวเราะ) เห็นของต่างประเทศเขามีนะ แต่ว่าในฟาร์มเรายังไม่เคยทำเลย น่าสนใจ ต้องไปศึกษาดูก่อนเราว่าดนตรีกับสัตว์เลี้ยง หรือว่าดนตรีกับการเกษตรมันน่าจะเกี่ยวข้องกัน และน่าจะไปด้วยกันได้ดีด้วย ขนาดคนเรายังฟังเพลงแล้วรู้สึกได้สัตว์กับธรรมชาติก็น่าจะรับรู้ได้เหมือนกัน น่าลองๆ (หัวเราะ)
“ต่อให้งานจะหนักแค่ไหนแต่ถ้าเรามีความรับผิดชอบมันก็ผ่านไปด้วยดี”
อะไรในความเป็นเกษตรกรที่สามารถใช้ในงานดนตรีได้บ้าง
ซัม : อืมมม คำถามยากนะเนี่ย (หัวเราะ) มันจะมีหลักบางอย่างที่เอาไปใช้ด้วยกันได้ คือเราต้องจัดสรรเวลาวางแผน และมีความรับผิดชอบทำให้เราเป็นคนที่ต้องวางแผนก่อนจะทำอะไรสักอย่าง ตรงนี้แหละที่เอาไปปรับใช้ได้ทั้งเรื่องฟาร์มและดนตรี แต่จริงๆ แล้วเอาไปใช้ได้หมดในการทำงานทุกๆ สาขา คือตัวเราเองต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ก่อนเป็นอันดับแรก
ต่อให้งานจะหนักแค่ไหนแต่ถ้าเรามีความรับผิดชอบมันก็ผ่านไปด้วยดี แล้วหลังจากนั้นความสุขในการทำงานมันจะเกิดขึ้นมาเอง โดยที่เราไม่ต้องพยายามสร้างขึ้นเลย
+เพลงใหม่ล่าสุด ‘โคตรคูล’ เพลงสไตล์ใหม่ที่บ่งบอกตัวตนของ Helmetheads ได้ชัดเจนที่สุด หลังจากปล่อยซีรีส์เพลงเศร้าติดต่อกันมาหลายเพลง ซัมถึงขั้นต้องไปหายืมอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อเอามาใช้ในเพลงนี้ หนุ่มๆ Helmetheads ทุ่มเทขนาดนี้ ถ้ายังไม่ได้ฟังก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ