ได้แค่มองพระจันทร์ก็สุขพอแล้ว "Full Moon" | MILD

15K View

        “มันไม่ใช่เพลงที่ช้าที่สุดในอัลบั้ม แต่เราว่ามันเป็นเพลงที่เพราะที่สุดในอัลบั้ม”

เป้ - บดินทร์ เจริญราษฎร์” หรือ MILDVACALIST นักร้องนำของวง Mild บอกกับเราทันทีที่เริ่มสัมภาษณ์ แค่นี้ก็ทำให้อยากรู้แล้วว่าที่มาที่ไปของเพลงนี้จะเป็นยังไง แต่น่าเสียดายที่การสัมภาษณ์ครั้งนี้สมาชิกคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย เพราะเราเองก็แอบเป็นกองโจรเข้าไปนั่งคุยกับเป้ในระหว่างการถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงหนึ่งที่เป้ไปร่วมร้อง และบวกกับคิวซ้อม ‘Leo Present MI4DX Concert’ ที่แน่นเอี๊ยด ทำให้เราหาช่องว่างของทุกคนในวงให้มาคุยพร้อมกันไม่ได้จริงๆ เลยต้องมาบุกถึงกองถ่ายนี่แหละ


Full Moon คือ 1 ใน 3 เพลงที่เขียนมาจากเรื่องจริง (ที่จริงเราไม่ได้รักกัน, ซาโยนาระ และ Full Moon) มันเป็นความรู้สึกของคนที่... อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มรัก ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไกลเกินไป ไกลจนไม่สามารถที่จะจับต้องได้ เราต้องเข้าใจก่อนว่า ของบางอย่างสำหรับบางคนมันเกิดมาเพื่อให้มองแต่ครอบครองไม่ได้ เรื่องราวในเพลงก็จะเป็นอย่างนั้น”

“รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถไปยืนอยู่ข้างๆ เขาได้ หรือเขาไม่สามารถมายืนอยู่ข้างๆ เราได้ แต่เรารักไปแล้ว มีหลายเหตุผลมากที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่างเช่น เขาอาจจะมีแฟนอยู่แล้วและรักกันดีด้วย แต่เราก็ยังรักเขา เพลงนี้ถือว่าเป็นตัวแทนของคนที่แอบรัก แต่ไม่ได้มีอะไรมากมายเท่าคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ผิดเวลาไปหมด แต่สุดท้ายก็รักไปแล้ว แค่หวังว่าเผื่อวันหนึ่งเขาจะมองกลับมาหาเราบ้าง เผื่อวันหนึ่งเราจะโชคดีบ้าง แค่มองไกลๆ ก็มีความสุขแล้วนะ แต่ว่ามันคงจะดีถ้าวันนึงเราได้จับมือ ได้โอบกอดเขาอย่างที่คิดไว้ มันรักไปแล้ว แต่ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ “

กลิ่นความเศร้าลอยมาแต่ไกล เอาจริงๆ ตอนที่ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก

ก็ไม่ได้คิดว่าจะลึกซึ้งขนาดนี้ กลับไปฟังอีกทีต้องซึมมากแน่ๆ T^T


ตอนเขียนนี่อกหักจริงๆ รึเปล่า?

“เหมือนละเมอเขียนอะ (หัวเราะ) ละเมอว่าเป็นคนที่เราแอบรักมากๆ แต่ว่าไม่มันเป็นไปไม่ได้ ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นการอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มรัก รู้เลยว่าทำยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เป็นอารมณ์ประมาณนี้ แล้วช่วงที่เขียนเพลงเป็นช่วงที่กำลังทัวร์ต่างจังหวัดพอดี ตอนนั้นนั่งเขียนเพลงในห้องพักแล้วมองขึ้นไปเจอพระจันทร์ ก็เลยมีความรู้สึกว่า เท้าเรายังเหยียบพื้นอยู่เลย แต่ตาเรากลับมองไปที่พระจันทร์ไม่ละสายตา เลยคิดว่าวันหนึ่งถ้าเราได้กอดพระจันทร์บ้างก็คงดี”


เพราะอะไรถึงยกให้เพลงนี้เป็นเพลงที่เพราะที่สุดในอัลบั้ม

“จริงๆ แล้วเรานี่แหละยกเอง (หัวเราะ) เพราะเรารู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้อารมณ์สูงมาก เป็นเพลงที่มีวิธีการอัดร้องไม่เหมือนกับเพลงอื่นๆ เพลงนี้จะไม่ใช้เสียงร้องแบบแข็งกร้าวเหมือนหลายๆ เพลง มีความสมูท และต้องดึงอารมณ์นั้นออกมาให้ได้ ซึ่งยากมาก ต้องเค้นมาจากข้างในโดยการที่เราต้องรู้สึกจริงๆ เท่านั้น เราว่ามันยากมาก แต่พอทุกอย่างเสร็จมันออกมาดีหมดเลย”

“ทุกอย่างออกมาได้ตามที่คาดหวัง จริงๆ ได้มากกว่าที่คาดเอาไว้อีก รู้สึกว่าเพลงนี้มันพอดีมากๆ เป็นอะไรที่ทำได้ตามแผน หน่วงตั้งแต่โน้ตแรกที่ขึ้นมาเลย บรรยากาศของเพลงมันพาไปสู่ความรักที่มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ รู้สึกว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นจริงๆ ถ้าคนที่แอบรักใครมากๆ ได้มาฟังเพลงนี้จะต้องโดนมากๆ แน่นอน”

“ในพาร์ทของดนตรีก็ทำเหมือนเดิมเลย เราเป็นคนเขียนเนื้อ และทำทำนองเริ่มต้นมา แล้วทุกคนในวงก็ช่วยกันทำ ช่วยกันออกความเห็น ตามสไตล์ที่ Mild เคยทำมาตลอด ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าเดิม แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันดูจะลงตัวได้ไวกว่าเดิม ในทุกๆ พาร์ทเลย เหมือนกับว่าเพลงนี้ลงตัวด้วยตัวของมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไปพยายามทำอะไรมาก”


 ชื่อเพลงได้มาจากตอนที่นั่งเขียนเพลงตอนนั้นเลยรึเปล่า?

“ใช่ครับ และอีกอย่างคือพระจันทร์เป็นสิ่งที่แทนความสวยงาม และหลายคนก็จะเปรียบเทียบความสวยงามของผู้หญิงเหมือนพระจันทร์ ก็คือความสวยงามในรูปแบบหนึ่ง แต่สำหรับเพลงนี้ เป็นความสวยงามที่ได้แค่มองแต่ครอบครองไม่ได้ อยู่ได้ไกลๆ ไม่มีทางไปถึง ไม่มีทางเป็นของเราได้ แต่ว่าเราก็คงยังจะอยากมองมันไปอย่างนั้นทุกๆ คืน อะไรประมาณนี้ เราเลยเลือกใช้ชื่อเพลงว่า Full Moon”


ปล่อยเพลงใน JOOX ไปแล้ว กระแสตอบรับของคนที่ได้ฟังเพลงนี้เป็นยังไงบ้าง?

“หลายๆ คนก็ชอบ บอกว่าเพลงเศร้ามาก  ดูเป็นเพลงแอบรักแต่ดูเศร้า ปกติเพลงแอบรักจะแอบติดหวานนิดนึง แต่เพลงนี้เป็นการแอบรักที่เศร้ามากๆ แล้วก็มีหลายคนบอกว่าเพลงนี้เพราะตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเลย เพราะว่ากีตาร์โซโล่ในท่อนสุดท้ายนานเป็นนาทีเลยนะ โซโล่ยาวๆ แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้น่าเบื่อ ส่วนใหญ่จะพูดประมาณนี้ บางคนก็บอกว่าฟังครั้งแรกก็ร้องได้แล้ว ติดหู พวกเราก็ดีใจและขอบคุณมากๆ เลยครับ”


จะได้ยินเพลงนี้ใน MI4DX Concert รึเปล่า?

“ต้องมีเพลงนี้แน่นอนครับ อีกอย่างหนึ่งคือ ใจเราหวังว่าในคอนเสิร์ตครั้งนี้เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ทุกคนร้องได้ดังที่สุด สำหรับเพลงนี้ก็พยายามที่จะใส่ความเป็น Mild เข้าไป คงไว้ให้ได้เยอะที่สุด เพราะหลายๆ เพลงที่ผ่านมา พวกเราใส่ความเป็นตัวเองกันไปเยอะ จนหลายคนรู้สึกว่าเยอะเกินไปรึเปล่า หนักเกินไปไหม เพลงนี้ก็เหมือนกับการ back to basic ให้ทุกคนได้รู้สึกอีกครั้งว่าวง Mild ก็ไม่ได้หายไปไหน ที่ผ่านมาเราแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยทำให้คุณแปลกหูแปลกตาไปก็เท่านั้นเอง”




Music Video

“เพลงนี้เป็น Music Series เอ… ก็ไม่ถึงขั้นซีรีส์ แต่จะมีภาคต่อในอีก MV หนึ่ง ในเรื่องของ MV Full Moon ผู้หญิงก็เหมือนจะต้องมนต์อะไรสักอย่าง หลับอยู่ไม่รู้เรื่อง พวกเราก็จะเข้าไปหา หลายคนเห็นแล้วก็บอกว่าจะเข้าไปทำมิดีมิร้ายเขาหรือเปล่า (หัวเราะ) ไม่ใช่นะ MV จะดูโรแมนติกหน่อย อย่างที่ทุกคนเห็นคือเป็นภาพขาวดำทั้งเพลงเลย สวยมาก แต่สุดท้ายแล้วเราจะเข้าไปหาเขาทำไม อันนี้ต้องติดตามใน MV ตัวต่อไปนะครับ จะเป็นเพลงอะไรก็ต้องไปลุ้นกัน”


ปิดท้ายกันไปด้วยประโยคโฆษณาเชิญชวนขนาดนี้แล้ว ใครจะพลาดไม่รอดู MV ต่อไปได้ จริงไหม?


MV Full Moon




เรื่อง จรัตพร โมรา

ภาพ Spicy Disc

0 comments
Other Magazine
or