“เพลงนี้ไม่ได้คิดว่าจะได้มาร้องเองเลยนะ ก็กะว่าเขียนมาให้เป้ (MVL) เขาร้องนั่นแหละ”
ประโยคเปิดการสนทนาที่ “เต่า - เจน มโนภินิเวศ” มือกีต้าร์ของวง MILD บอกเล่าความตั้งใจแรกในเพลง “OVER” กับเราว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมายึดตำแหน่งร้องนำ (ชั่วคราว) ในเพลงนี้จริงๆ และผู้ฟังทุกคนก็เกือบจะไม่ได้ยินเพลงนี้แล้ว
“ตอนแรกเพลงนี้ไม่ได้ถูกวางเอาไว้ในอัลบั้มด้วยซ้ำ เราเขียนไว้นานแล้วอะ เพราะตอนนั้นความรู้สึกมันมา เลยอยากเขียนเฉยๆ ก็ลองเอาไปเปิดให้เพื่อนในวงฟัง อยากรู้ว่าชอบกันไหม เพื่อนก็ชอบกัน ตอนที่ทำเสร็จจำได้ว่าจะเป็นช่วงที่กำลังจะปล่อยอัลบั้มที่ 3 แล้ว Mood and Tone ของเพลงนี้มันไม่ลงตัวกับภาพรวมของอัลบั้ม เลยถูกสต๊อกเอาไว้”
‘OVER’ Acoustic Guitar เพลงเดียวในอัลบั้ม...
“เริ่มจากตอนที่ทำเป็นเดโม คือเราทำเดโมเป็นอะคูสติกทุกเพลงอยู่แล้ว เราจะทำส่งให้เพื่อนฟัง เป็นเสียงกีต้าร์กับเสียงร้อง เพื่อเวลาที่เพื่อนฟังจะได้รู้ว่ามันดีไหม ถ้าไม่ชอบก็ไม่ทำต่อจะได้ไม่เสียเวลาทำดนตรี แต่เพลงนี้พอเราส่งเดโมไปเพื่อนชอบและลงความเห็นกันว่าจะให้เพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นอะคูสติก แต่ใจเราอะค้างคาอยากจะใส่ดนตรีเข้าไป ก็เลยทำอีกเวอร์ชั่นหนึ่งแบบใส่ดนตรีจัดเต็มส่งให้เพื่อนอีกรอบ แต่เพื่อนก็บอกว่าชอบอันแรกมากกว่า (หัวเราะ) ก็เลยได้มาเป็นอะคูสติกเลย”
“และอีกอย่างคือเรารู้สึกว่า ทุกเพลงในอัลบั้มที่ 4 (MI4D) ดนตรีมันแน่นไปหมด จัดเต็มทุกเพลง เลยรู้สึกว่าน่าจะมีสักเพลงที่ตัดเลี่ยนหน่อย OVER ก็เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่เราส่งให้เพื่อนเลือกว่าจะใช้เพลงไหนดี แล้วมันก็เข้ารอบ... กลายเป็นเพลงอะคูสติกที่เอามาล้างหู เป็นจังหวะที่เพลงนี้อยู่ได้ถูกจุดในอัลบั้ม”
อย่าบอกว่าคุณเป้เขาไม่ยอมร้องเพลงนี้ เหมือนที่ไม่ยอมเพลงดีต่อใจนะ
“(หัวเราะ) ไม่ใช่ๆ คือทุกอัลบั้มจะมีเพลงที่เราแอบร้องอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้เปิดเผยเท่าไหร่ว่าเป็นเสียงเรา ไม่ค่อยโปรโมทอะ เลยกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ที่เราต้องร้อง 1 เพลงในอัลบั้ม พอดีว่าอัลบั้มที่ 4 เนี่ย ยังไม่มีเพลงที่เราจะร้อง แล้วทุกคนในวงก็บอกว่าเพลงนี้เอาเสียงเรานี่แหละ ก็เลยลองดูเพราะปกติเพลงเศร้า เพลงช้าคุณเป้เขาจะร้อง ก็ลองมาสับขาหลอกคนฟังดู ถ้าเป็นเสียงเราจะเป็นยังไง”
ได้ยินมาว่าเพลงนี้แต่งมาจากเรื่องจริง?
“เราเขียนเนื้อเพลงและทำนองเองทั้งหมดเลย พาร์ทของดนตรีก็ไม่มีอะไร มีแค่กีต้าร์อย่างเดียวเลยอะ มีแค่นั้นแหละ (หัวเราะ) เป็นเพลงเศร้า เพลงที่คิดถึงคนรักเก่า เป็นแบบวัยรุ่นอกหักหน่อยๆ ที่เลือกเขียนเพลงเศร้าคงเป็นเพราะอารมณ์ตอนนั้นได้หล่ะมั้ง เพราะตอนนั้นก็เศร้า ก็มีความรู้สึกแบบในเพลงเลย เพลงนี้เขียนไว้เมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว ช่วงที่เขียนเพลงไม่ใช่ช่วงที่เพิ่งเลิกกันนะ เพราะถ้าเพิ่งเลิกกันเราจะฟูมฟาย แต่เป็นช่วงที่เราเรียกว่า After shock คือตอนที่อกหักคือก็เจ็บประมาณนึง แต่ After shock มันสั่นเบาๆ แต่เจ็บกว่า (หัวเราะ) แบบเป็นช่วงที่เพิ่งคิดได้จริงๆ ว่าสุดท้ายเราลืมไม่ได้ มันก็น่าจะเจ็บกว่า เพลงนี้ก็แต่งจากประสบการณ์จริงๆ เพราะตอนนั้นรู้สึกแบบนี้”
เคยร้องเพลงอกหักมาก่อนมั้ย
“ไม่เคยเลยครับ รู้สึกแปลกๆ ดี ตอนที่เข้าห้องอัดมันเป็นอีกความรู้สึกนึงเลย เพราะเราไม่เคยเข้าไปร้องเพลงในอารมณ์นี้ แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือ ฟีดแบ็กที่ได้กลับมาจากคนฟัง เวลาที่ร้องเพลงนี้ในโชว์แล้วมีคนร้องตามได้ มันจะเป็นยังไง น่าจะเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เลย ยิ่งถ้าเพลงเป็นที่รู้จักแล้วมีคนเดินมาบอกว่าอินกับเพลงมาก ความรู้สึกคงดีมากๆ เลย”
ความตื่นเต้นของมือกีต้าร์กับนักร้องนำ
“ร้องนำต้องตื่นเต้นกว่าอยู่แล้วครับ เพราะปกติเราก็ไม่ใช่ Center เราจะไม่ค่อยชิน ก็เขินอะ แต่พอมาเป็นนักร้องคือสายตาทุกคนจับจ้องมาที่เราหมด เราก็จะเกร็งสั่นๆ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีไม่ว่าจะในตำแหน่งไหน เราก็ตื่นเต้นทุกทีนั่นแหละ (หัวเราะ)”
“แต่ถ้าพูดถึงเสน่ห์ เราว่าเสน่ห์มันไม่ต่างกันมากนะ อยู่ที่ว่าเราไปเล่นกับใครมากกว่า อย่างเราถนัดกีต้าร์มากแค่ไหน แต่ถ้าเราไปแจมกับวงอื่นก็จะมีความประหม่า ความไม่รู้ใจกัน มันก็จะตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง เพราะฉะนั้นเราว่าเสน่ห์มันไม่ต่างกัน แค่ต่างตรงที่ว่าเราจะร้องหรือเราจะเล่นกับใครมากกว่า”
เพราะการอกหักเป็นความรู้สึกสากล ที่ใครก็เคยเจอ
“เราว่ามันก็มีส่วน เพราะความรู้สึกนี้ค่อนข้าง Touch กับคนได้ง่าย เราเองก็เขียนออกมาจากความรู้สึกจริง มันก็น่าจะเข้าใจง่ายกว่าการที่เราพยายาม”
คาดหวังไว้ยังไงกับ “OVER”
“สำหรับเราเฉยๆ นะ เพราะทุกเพลงเราก็ไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว อืม (หยุดคิด)… ก็คาดหวังอยู่แหละแต่ไม่ได้อินอะไรกับตรงนั้นมาก ถ้าไม่ถึงที่เราคิดไว้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้เป็นคนที่จะผิดหวังกับความคาดหวังอะ แบบชอบก็ดีไม่ชอบก็ไม่เป็นไร”
(Q : หวังจะให้มันเป็นเพลงดังไหม?)
“ในใจก็ต้องหวังอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่อย่างที่บอกแหละ ถ้ามันดังก็ดีแต่ถ้าไม่ดังก็ชิลล์ ไม่เป็นไร เราได้ทำสิ่งที่เราชอบเราก็พอใจแล้ว เหมือนมันผ่านเส้นชัยเราไปแล้ว ที่เหลือมันก็จะเป็นโบนัส แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”
“แต่ถ้าให้เดานะ สำหรับแฟนๆ น่าจะงงก่อน พอไม่ใช่เสียงคุณเป้ ก็จะคิดละว่า หรือมันจะไม่ใช่วง MILD? เหมือนกับเพลง ‘Forever’ ที่คนก็เถียงกัน ไม่ใช่เสียงเป้ ไม่ใช่วง MILD เขาก็เข้าไปค้นว่าน่าจะเป็นใครมาร้อง เราชอบแบบนี้มากเลย แล้วเขาก็มาถามเราว่าพี่ร้องจริงหรอ (หัวเราะ) เขาก็จะไปหาคำตอบเองแล้วเขาก็จะเซอร์ไพรส์เขาเอง เราว่าทุกคนก็มีลายเซ็นเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เราไม่ได้เอาไปเทียบตรงนั้นว่าจะทำยังไงให้ต่าง เราคิดแค่ว่าได้ทำในสิ่งที่เราชอบแค่นั้นก็พอแล้ว”
เรื่อง จรัตพร โมรา
ภาพ Spicy disc