“คือเพื่อนมันก็พูดกันว่าเราทำเยอะสุด เพราะเห็นว่าเราเป็นแกนหลักในการโปรดิวส์มาตลอด เพื่อนๆ ในวงก็เลยลงความเห็นว่าให้ใช้ชื่อเราไปเลย” คำตอบจากคำถามแรกที่เราถาม ‘เต่า - เจน มโนภินิเวศ’ กีต้าร์ลิสต์ มือฉมังของวง Mild ถึงที่มาของตำแหน่งโปรดิวเซอร์ประจำวง เอาเข้าจริงคำตอบที่ได้มาก็ทำให้เราหายสงสัยจนไม่ต้องถามอะไรต่อแล้วก็ได้ แต่อย่าเลยหยุดแค่นี้เลยดีกว่า เพราะ SPICYDISC แอบล้วงความลับในอัลบั้ม MI4D มาฝากทุกคนด้วย
“เพื่อนๆ ก็ยังช่วยกันทำเพลงอยู่นะ เพียงแค่เราได้หน้าที่ในการรับผิดชอบที่ชัดเจนขึ้น”
Producer
เราเริ่มโปรดิวส์ตั้งแต่อัลบั้มแรก... แต่ในตอนนั้นก็ยังทำในนามของ Mild อยู่ เพราะตอนนั้นช่วยกันหมดทุกคน จนอัลบั้มที่ 3 (Master Peace) คือเพื่อนมันก็พูดกันว่าเราทำเยอะสุด เพราะเห็นว่าเราเป็นแกนหลักในการโปรดิวส์มาตลอด เพื่อนๆ ในวงก็เลยลงความเห็นว่าให้ใช้ชื่อเราไปเลย แต่เพื่อนๆ ก็ยังช่วยกันทำเพลงอยู่นะ เพียงแค่เราได้หน้าที่ในการรับผิดชอบที่ชัดเจนขึ้น
การทำงานของเราจะเริ่มจาก... ไปนั่งคุยกับเพื่อนก่อนว่าอยากให้ภาพรวมของอัลบั้มออกมาเป็นแบบไหน อย่างอัลบั้ม 4 (MI4D) เราก็คิดว่าถึงเวลาของไอ้เป้ (MILDVOCALIST) ที่จะแร็ปได้เต็มที่ เราก็จะใส่ท่อนแร็ปลงไปเกือบทุกเพลง ทำให้มันเป็นสไตล์ ‘Hip - Pop’ คือ Hip Hop กับ Pop รวมกัน มันก็จะมีความแบบชึ้บๆๆๆๆ (หัวเราะ)
สิ่งสำคัญคือลำดับการปล่อยเพลง... พอทำเพลงมาแล้ว เราจะดูว่าควรปล่อยเพลงไหนก่อน เรียงลำดับไว้เลย 1 2 3 ก็ว่ากันไป เราคิดว่าเพลงแต่ละเพลงมันมีหน้าที่ของมัน ต้องคอยดูว่าช่วงเวลาแบบนี้ เพลงไหนที่เหมาะที่สุดที่จะปล่อยออกไป ถ้าเพลงไหนไม่ได้ก็รื้อใหม่เลย ไอที่รื้อนี่มีเยอะเหมือนกันนะ (หัวเราะ) บางเพลงเราตั้งใจจะปล่อยเป็นเพลงที่ 3 แต่พอใกล้ถึงวันจริง สถานการณ์มันไม่เหมือนจากที่คิดไว้ ทำให้เพลงนี้ไม่เหมาะที่จะปล่อยแล้ว มันไม่ได้จริงๆ เราก็รื้อใหม่แล้วหาเพลงอื่นที่เหมาะกว่ามาแทนก็มี (หัวเราะ)
“แต่ละเพลงมันมีหน้าที่ของมัน ต้องคอยดูว่าช่วงเวลาแบบนี้ เพลงไหนที่เหมาะที่สุดที่จะปล่อยออกไป”
Friends
ทำงานกับเพื่อนก็ง่ายดีนะ... คนเป็นเพื่อนกันคิดอะไรก็พูดเลย มันไม่ต้องมานั่งเกรงใจกัน ถือว่าเป็นข้อดีเลย มีบ้างที่ความเห็นไม่ตรงกัน แต่ไม่มีเรื่องตกลงกันไม่ได้เลย เพราะวงเราใช้วิธีโหวต ถ้าผลออกมา 3:3 ก็โหวตใหม่เรื่อยๆ จนกว่าจะได้ ใช้ระบบประชาธิปไตยมาตลอด (หัวเราะ)
เป็นโปรดิวเซอร์ไม่เหนื่อยเลย... ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ด้วยซ้ำที่ยกหน้าที่นี้ให้เรา เพราะเราช่วยกันทำมาตั้งแต่แรก เราก็ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เคยมีช่วงหนึ่งท้อๆ เหมือนกัน เป็นช่วงที่เราทำงานหนักเลย เราจะมีความกลัวว่าดนตรีจะซ้ำ เหมือนกับว่าก่อนหน้านั้นเราทำไปเกือบหมดแล้ว มันก็จะกังวล ต้องคิดเยอะขึ้น ต้องทำให้ยากขึ้น แล้วหลังจากนั้นเพื่อนก็คงเห็นว่าถ้าเป็นชื่อเราก็น่าจะเป็นกำลังใจในการทำงานของเราด้วย
“ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ด้วยซ้ำที่ยกหน้าที่นี้ให้เรา”
ทุกอัลบั้มจะมีเพลงที่เราร้องอยู่หนึ่งเพลง... แต่ความพิเศษของอัลบั้มนี้คือ เราร้องเพลงเศร้า เราไม่เคยร้องเพลงเศร้าเลย เพราะปกติเป้จะเป็นคนเขียนและร้องเพลงเศร้าเพลงอกหักตลอด แต่ตอนที่เราเริ่มทำเพลงนี้มันเป็นช่วงที่เศร้าๆ พอดี เพราะตอนนั้นอกหัก (หัวเราะ) เราเขียนเพลงนี้เสร็จภายใน 5 นาที เหมือนมันพรั่งพรูออกมาเอง นั่งเขียนโป้งๆๆ เสร็จเลย (หัวเราะ)
เพลงของเราในอัลบั้ม MI4D เกิดขึ้นจาก...
เราทำเดโมไปให้เพื่อนในวงฟังเฉยๆ อัดกีต้าร์ตัวเดียว แล้วก็ร้องๆ ไป พอจะเอาเพลงลงอัลบั้มก็มีการ arrange ใหม่ แล้วเพื่อนบอกไม่เอา จะเอาแบบเดโมที่เป็นเสียงเรานั่นแหละ (หัวเราะ) คงจะเป็นเพราะว่าพอใส่ดนตรีต่างๆ ลงไปแล้วมันเยอะเกิน ก็โหวตๆ กัน จนได้เวอร์ชันอะคูสติคมา
อาจจะได้ฟังเพลงที่เราร้องเร็วๆ นี้… ก็ดูๆ อยู่ว่าเพลงนี้จะไปต่อได้ถึงไหน เพลงที่เราร้องจะเป็นเพลงแก้เลี่ยนของอัลบั้ม เป็นเพลงอะคูสติค ดนตรีสบายๆ เป็นเสียงกีต้าร์โปร่งตัวเดียว เพราะเพลงในอัลบั้มนี้ดนตรีจะหนักเกือบทุกเพลง อันนี้ก็จะสบายๆ และเสียงร้องที่ไม่ใช่เป้ (หัวเราะ) จะได้ฟังกันมั้ยต้องมาช่วยลุ้น (ยิ้ม)
“แฟนเพลงและแฟนคลับ เหมือนเป็นเซอร์ไพร์สตลอดเวลา ขอบคุณที่พวกคุณเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ของพวกเรา”
แฟนคลับเป็นกำลังใจที่ดีของเราเลยแหละ... พวกเราเองก็พยายามเสนออะไรที่ดีและใหม่ให้คนฟังตลอด พอเขาเดินมาบอกว่าชอบเพลงวงเรา และรอฟังอยู่นะ มันก็เป็นกำลังใจที่ดีของเราเลย ต้องขอบคุณมากๆ อีกอย่างคือบางที่ที่เราไปเล่น เราไม่คิดเลยว่าคนแถวนั้นเขาจะรู้จักเรา คือเหมือนไม่ใช่ที่ของเราเลยอะ แต่เขากลับฟังเพลงเราและร้องตามได้ แฟนเพลงและแฟนคลับ เหมือนเป็นเซอร์ไพร์สตลอดเวลา ขอบคุณที่พวกคุณเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ ของพวกเรา อยากให้ทุกคนสนับสนุนพวกเราแบบนี้ต่อไปนะครับ
และนี่คือผลงานโปรดิวส์ล่าสุดของเขา ใครยังไม่ได้ฟัง รีบกดไปฟังนะ เพราะตอนนี่ยอดวิวทะลุ 5 ล้านวิวแล้ว!!!