“ก้อ ณฐพล ศรีจอมขวัญ ได้รับเลือกเป็น Brand Endorser ของเบส Fender Thailand” 

จริงๆ ประโยคนี้มันได้อธิบายทุกอย่างจบในตัวแล้วแหละ แต่เพื่อความเข้าใจว่าทำไม Fender แบรนด์เครื่องดนตรีระดับโลกถึงได้ให้ ‘ก้อ ณฐพล’ เป็น Brand Endorser*  ของเบส Fender ประเทศไทย 

เราจึงขอพูดคุยเกี่ยวกับการใช้งานจริง และความเป็น ‘ตัวจริง’ จากศิลปิน โปรดิวเซอร์ มือเบสมืออาชีพ ผู้ซึ่งเป็นไอดอลของนักดนตรีทั่วทั้งประเทศไทย 

*Brand Endorser หมายถึง ตัวบุคคลที่มีเชื่อเสียงและเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์

ที่มาที่ไปของการได้มาเป็น Brand Endorser ของเบส Fender Thailand

ก้อ : ด้วยความที่ใช้เครื่องดนตรีของ Fender มา 20 กว่าปีแล้วด้วย เค้าคงเห็นว่าพี่ถือเบสของ Fender อยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มไหนก็ตาม และนักดนตรีส่วนมากจะรู้ว่าพี่ใช้ Fender อย่างเดียวทั้งในการบันทึกเสียงหรือเล่นคอนเสิร์ตต่างๆ  ที่นี้พี่เป็นมือเบสที่มีเบสหลายตัว แต่ส่วนใหญ่ที่มีเป็นยี่ห้อ Fender ถ้าศิลปินนักดนตรีเห็นพี่เล่นจะรู้เลยว่าใช้ยี่ห้อนี้แน่ๆ เพราะซาวด์ของเครื่องดนตรียี่ห้อนี้กับตัวพี่เหมือนเป็นสิ่งเดียวกันไปแล้ว

ระหว่าง ก้อ ณฐพล กับ เบส Fender

ก้อ : ครั้งแรกที่ได้รู้จักเบส Fender คือ ตอนที่เป็นนักเรียนดนตรีที่ College of Music ที่ Boston ตอนนั้นต้องเรียน Private Lesson เรียนไปได้สักพัก ครูที่สอนเขาแนะนำว่า ‘เราควรหาเบสของ Fender มาใช้สักตัว เพราะมันเหมาะกับสไตล์ที่เล่นอยู่’ ตอนนั้นไม่เคยลองเล่นยี่ห้อนี้มาก่อน พอดีกับที่ครูคนนี้เขาเป็นนักสะสมเบสอยู่แล้ว เลยถามเขาว่าพอจะหาเบส Fender ให้ได้ไหม ใช้เวลาเดือนกว่าๆก็ได้เบส Fender Jazz ปี 1978 มา เป็นเบส Fender ตัวแรกในชีวิต พอได้จับแล้วรู้สึกชอบเลย ทั้งฟีลและซาวด์คือเป็นตัวเองที่สุด เลยเล่นเบสของ Fender มาตลอด
ก้อ : เครื่องดนตรีแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นจะมีซาวด์ของมันที่นักดนตรีแต่ละคนชอบ ซึ่งซาวด์ที่พี่อยากได้กับที่เบส Fender มีมันตรงกัน เพราะฉะนั้นเลยเหมาะสมมาก อีกอย่างคือโชคดีที่ได้ลองเบสยี่ห้อนี้ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน ถือว่าเจอซาวด์ที่เหมาะกับตัวเองเร็วมาก หลังจากนั้นแทบจะไม่ต้องนั่งหาซาวด์อื่นๆ เลย ได้ตัวนี้คือจบตั้งแต่แรก ก่อนหน้านี้เคยไปลองเบสยี่ห้ออื่นๆ สุดท้ายมันไม่ใช่ บางทีเล่นแล้วรู้สึกเขินๆ หรือไม่ได้ซาวด์ที่ต้องการ แต่พอกลับมาจับของ Fender แล้วรู้สึกว่า คือซาวด์ที่ใช่สุด

จากสโลแกนของ Fender ที่ว่า “Revolutionary Instruments” สำหรับพี่ก้อมีการปฏิวัติการทำงานอย่างไรบ้าง
ก้อ : จริงๆ แล้วเครื่องดนตรีของ Fender เป็นยี่ห้อนึงที่ดังที่สุดในหมู่ศิลปินมือเบส และมือกีต้าร์ทั่วโลกในแต่ละยุคที่มีการปฏิวัติการฟังดนตรีของคน นักดนตรีเหล่านั้นส่วนมากจะใช้กีต้าร์หรือเบสของ Fender นักดนตรีสำคัญหลายคนของโลกที่สร้างสไตล์หรือซาวด์ของตัวเองขึ้นมาจะมีเครื่องดนตรีของ Fender เข้าไปเกี่ยวข้อง ถือเป็นยี่ห้อที่สร้างประวัติศาสตร์ดนตรีในแง่ของสไตล์การเล่นของนักดนตรีเก่งๆจำนวนมาก ซึ่งสำหรับตัวพี่เองนักดนตรีมือเบสที่ชื่นชอบแทบทุกคนใช้เบสของ Fender หมดเลย และซาวด์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็มีอิธิพลต่อตัวพี่มาจนถึงปัจจุบัน เป็นซาวด์ที่เอามาประยุกต์ใช้ให้เป็นในแบบของตัวเอง
ก้อ : ซาวด์ของเบส Fender เป็นสิ่งสำคัญมากในสิ่งที่พี่ทำอยู่ มันเป็นตัวตนของพี่ตั้งแต่ที่เล่นกับ P.O.P มาจนถึง Groove Riders, Ghost Cat และอัลบั้มเดี่ยว ทุกอัลบั้มใช้เบส Fender หมดเลย แต่จะแตกต่างรุ่นกันเพื่อให้เหมาะสม และดีที่สุดนั่นเอง

อ่านมาถึงตรงนี้ เรากำลังจะเข้าเรื่องผลงานของพี่ก้อ กับเบส Fender รุ่นต่างๆ เพื่อผลิตผลงานดนตรีแตกต่างกัน ขอให้คุณผู้อ่านเตรียมตัวสลับหน้าจอเพื่อเสิร์ชหาอัลบั้มดังต่อไปนี้ ที่พี่ก้อกำลังจะเล่าให้เราฟังว่าอัลบั้มไหน ใช้เบสอะไร แล้วซาวด์ที่ออกมาเป็นยังไง มันสนุกและเท่มากจริงๆ เชื่อเรา

เบส Fender กับผลงานของก้อ ณฐพล

P.O.P เป็นแนวป็อปร็อค ซึ่งรุ่นที่ใช้บันทึกเสียงคือ Fender Jazz ปี 1978 ที่ได้มาจากครู มันเป็น Fender รุ่นเก่า แต่เปลี่ยน Pickup เป็นแบบ Active Pickup ที่จะให้ซาวด์แบบโมเดิร์น ซาวด์ที่ออกมาเลยจะมีส่วนผสมของทั้งความใหม่ และเก่าอยู่ด้วยกัน
Groove Riders เป็นวงสไตล์ 70s มีแนวเพลงแบบ Disco และ Funk เลยใช้เบสที่ย้อนยุคมากขึ้นนั่นคือ  Precision Bass หลายๆ เพลงของ Groove Riders จะเป็นเพลงช้า เช่น รักไม่ได้ , เธอทั้งนั้น จะใช้ Precision Bass Reissue ปี 1957 ร่วมกับ Jazz Bass ด้วย ตอนนั้นใช้หลายตัวผสมกัน แล้วแต่เพลง

อัลบั้มเดี่ยว 2 อัลบั้มแรก The Workings Of The Soul กับ The Workings Of The Soul 02 จะใช้ Precision Bass Reissue ปี 1957
The Ghost Cat มีแนวเพลงสไตล์ New Wave ก็จะใช้ American Standard Precision Bass ในทุกเพลงเลย เพราะต้องการซาวด์ที่โมเดิร์น เส้นเบสและซาวด์ของรุ่นนี้จึงเหมาะที่สุด

และอัลบั้มล่าสุดอย่าง FUNK ได้กลับไปใช้เบสตัวแรกอีกครั้งนึง (Fender Jazz ปี 1978) แต่เปลี่ยนมาใช้ Pickup แบบดั้งเดิมของมันเป็น Passive Pickup ให้ซาวด์ในยุค 70s

    ก้อ : ถ้าออกไปเล่นคอนเสิร์ตจะใช้ Fender Jazz American Standard ของปี 1996 เพราะการออกไปทัวร์คอนเสิร์ตต้องใช้เครื่องดนตรีที่สามารถลุยได้ ชนนู่นชนนี่ก็ไม่เป็นไรและซาวด์ที่ได้ต้องดีด้วย รวมถึงรุ่นนี้สามารถปรับได้หลายซาวด์ในตัวเดียว ถ้าใครได้ไปดูคอนเสิร์ต Groove Riders จะได้เห็นเบสสีแดงที่ใช้บ่อยมาก ล่าสุดซื้อ Fender Jazz มาอีกตัวเพื่อเอาไปเล่นคอนเสิร์ตเหมือนกัน ในฐานะนักดนตรียอมรับว่าเวลาได้เครื่องดนตรีใหม่มาจะรู้สึกตื่นเต้น มีไฟอยากจะลองเล่น แต่สุดท้ายซาวด์สำคัญที่สุดจริงๆ มันมาจากวิธีการเล่นของตัวเองนี่แหละ

มีเบสทั้งหมดกี่ตัว
ก้อ : มันจะเพิ่มๆ ลดๆ อยู่เรื่อยๆ แต่ทั้งหมดตอนนี้มีอยู่ประมาณ 8 ตัว เป็นของ Fender 6 ตัว 

เวลาเล่นสดต่างที่ต่างๆ เคยต้องใช้เบสของคนอื่นเล่นไหม
ก้อ : แทบจะไม่มีเลย เพราะว่าหลายครั้งที่ไปเล่นแล้วต้องไปจับเบสของคนอื่นรู้สึกไม่ถนัด

จะทำอะไรร่วมกับ Fender และสามารถติดตามจากช่องทางไหนได้บ้าง
ก้อ : ตอนนี้ร่วมงานกับตัวแทนจำหน่าย Fender คือร้าน Music Concept อยู่เรื่อยๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น Live @ Music Concept หรือมีจัดเว้นท์ต่างๆ ก็จะไปให้สัมภาษณ์ครับ

การได้เป็น endorser ของ Fender เป็นสิ่งที่อยากทำ และรู้สึกว่าควรจะทำ เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่พี่ใช้อยู่แล้วไม่ได้ทำเพื่อหวังผลการค้าอะไร ทำเพื่อเป็นการให้เกียรติสินค้ายี่ห้อนี้ที่เป็นส่วนสำคัญของตัวเองครับ

ผลงานล่าสุดของ ก้อ ณฐพล คือการทำ 'Album Funk' ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ Singer-SongWriter อีกหลายคน แต่เพลงที่เราจะได้ยินเสียงเบสจากพี่ก้อชัดที่สุดน่าจะเป็น 'เพลง รุ่นใหญ่' ซึ่งพี่ก้อบอกว่า "อยากให้คนได้ฟังกันเยอะๆ"