พรสวรรค์ด้านดนตรีที่มาคู่กับพรแสวงของตัวเอง : ออมสิน Aomsin and The Boys
“ออมสิน - สุธินันท์ ทางธรรม” นักร้องนำ ‘Aomsin and The Boys’ จากค่าย SPICYDISC ที่หลายคนคงได้เห็นฝีมือการเล่นดนตรีที่น้อยคนจะทำแบบนี้... แต่ออมสินบอกกับเราว่ากว่าจะฝึกตัวเองให้เล่นเครื่องดนตรีพร้อมกัน 3 ชิ้นได้คล่องแบบทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จริงๆ แค่เริ่มการตีกลองก็ยากสำหรับคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่เขาเล่นเครื่องดนตรี 3 ชิ้น บวกกับการร้องเพลงไปพร้อมกัน รวมๆ แล้วคือต้องทำ 4 อย่างในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ครั้งแรกที่เริ่มเล่นดนตรี
ออมสิน : ไม่แน่ใจเลยครับ แต่จำได้ว่าตอน 5 ขวบ ผมเอาถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ มาตั้งเป็นกลองชุดเคาะๆ ตีๆ อยู่ใต้ถุนบ้าน แล้วคุณยายก็เลยจัดเป็นเวทีคอนเสิร์ตเลย (หัวเราะ)
แรงบันดาลใจในการเล่นดนตรี
ออมสิน : ที่จำได้คือช่วง ป.5 - ป.6 มีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ตของวง Silly Fools แล้วหลงรักวงนี้เลย เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเล่นดนตรีในปัจจุบัน ชอบพี่โตมาก จริงๆ ชอบทั้งวงเลย ส่วนพี่ต่อ มือกลองของวงในตอนนั้น ผมมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นรุ่นพี่โรงเรียนผมด้วย เคยเจอเขาที่โรงเรียนแล้วยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
ชอบเพลงร็อค แต่เพลงตัวเองไม่ร็อคเลย
ออมสิน : ใช่ๆ คิดว่าเด็กทุกคนในยุคเดียวกับผมคงเริ่มมากจากการชอบเพลงร็อค พอโตก็ได้ฟังเพลงเยอะขึ้นรวมถึงได้เข้ามาเรียนด้วย ได้ฟังเพลงสากล เพลงแจ๊ส ผมไปเจอจุดเปลี่ยนคือมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ไปเจอวงนึงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ประมาณ 4 - 5 ปีที่แล้ว ชื่อวง ‘Of Monsters and Men’ เป็นอีกวงที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำเพลงของตัวเองและเล่นดนตรีมาจนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นที่ดูโชว์ถึงจะไม่รู้จักแต่ตั้งแต่โน้ตแรกจนจบโชว์ผมขนลุกตลอด น้ำตาซึมเลย ซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับตัวผม
เครื่องดนตรีชิ้นแรกของออมสินคือ...
ออมสิน : ระนาดเอกครับ ตอนนั้นอยู่ ป.4 ที่บ้านจับไปเรียนดนตรีไทย ที่กรมศิลปากร เข้าไปแรกๆ ก็งง แต่พอได้ลองเล่นก็รู้สึกว่าเสียงระนาดเอกเพราะ ก็เลยเล่นมาเรื่อยๆ ได้ไปเล่นที่โรงละครแห่งชาติด้วยนะ เป็นโชว์จบคอร์สเรียน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นงานประจำปีของกรมศิลปากร จำไม่ค่อยได้มันผ่านมานานมาก และทุกวันนี้ไม่ค่อยได้ตีแล้วครับ แต่ถ้าได้เจอระนาดก็พยายามจับๆ ตีๆ เพราะผมชอบเสียงของระนาดเอกอยู่แล้ว
แต่คุณเรียนจบเอกกลองชุด แล้วเปลี่ยนจากระนาดมาเป็นกลองชุดได้ยังไง?
ออมสิน : จริงๆ เล่นกีต้าร์เป็นก่อนตีกลองอีกนะ (หัวเราะ) ลงเรียนคอร์สกีต้าร์หลังจากเรียนระนาดเอกจบคอร์ส ก็เรียนเบื้องต้นเลยตอนนั้น เพราะผมแค่อยากตีคอร์ดได้ไว้ร้องเพลงกับเพื่อน เลยเรียนแป๊ปเดียวแล้วออกมาฝึกเอง พอช่วงมัธยมต้นผมเข้าวงโยธวาทิต เพราะอยากตีกลอง แต่คุณครูไม่ให้ตี! (หัวเราะ) ตอนนั้นครูให้ลองยืดแขน แล้วครูก็บอกว่าแขนยาวดีให้ไปเป่า Trombone งงเลยมันเกี่ยวอะไรกัน (หัวเราะ) ก็เป่า Trombone อยู่ 3 ปี พอมัธยมปลายก็ออก เพราะอยากมาตั้งวงดนตรีของตัวเอง ตอนแรกตั้งใจว่าจะเป็นคนร้องนำ แต่พอได้มาซ้อม ปรากฏว่าเพื่อนที่ตีกลองเขาตีไม่ได้ เลยเสนอตัวขอตีกลองเอง จากวันนั้นก็ยาวมาจนถึงวันนี้ (หัวเราะ) พอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็เลยเลือกเรียนสาขาวิชาดนตรีศึกษา - ดนตรีสากล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ครับ
อ้าว ก็เปลี่ยนจากกลองชุด มาเป็นนักร้องนำอีกรอบ?
ออมสิน : (หัวเราะ) ใช่ครับ อย่างที่บอกเมื่อกี้ว่าตอนที่ตั้งวงอยากร้องนำอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็ดีดกีต้าร์ ร้องเพลงกับเพื่อนในห้อง แล้วก็พอร้องเพลงได้ แต่ผมก็เหมาทั้งร้องนำและตีกลองนะ
นั่นน่ะสิ มาเล่นเครื่องดนตรี 3 ชิ้นคนเดียวได้ยังไง?
ออมสิน : มันเกิดขึ้นตอนเรียนอยู่ปี 5 (SPICYDISC : ออมสินเรียน 5 ปี ตามหลักสูตรนะจ๊ะ ไม่ได้เรียนเกินแต่อย่างใด ><) ช่วงที่ใกล้จะเรียนจบก็มาคิดว่าตัวเองอยากจะทำอะไร แล้วเป็นคนชอบหลายอย่าง อยากร้องเพลงด้วย อยากตีกลองด้วย ชอบแต่งเพลงด้วย เลยลองเอามารวมกัน แล้วผมเคยเห็นวง Mumford and sons นักร้องนำของวงก็เล่นเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นแบบนี้ ก็เลยลองเล่นดู ครั้งแรกที่ลองปรากฏว่ามันพอไปได้ ผมเลยไปชวนน้องอีกสองคนคือใหม่ (Bass : Aomsin and The Boys) กับบอย (Guitar : Aomsin and The Boys) ที่เป็นรุ่นน้องอยู่ที่มหาวิทยาลัย มาร่วมวงกัน แล้วฟังเพลงใกล้กัน เลยอยู่กันยาวจนมาเป็น Aomsin and The Boys ในทุกวันนี้ครับ
เครื่องดนตรีที่เล่นพร้อมกันตอนนี้มีอะไรบ้าง
ออมสิน : Acoustic guitar, Bass drum และ Tambourine มือเล่นกีต้าร์โปร่ง เท้าขวาเหยียบกระเดื่องเบสดรัม เท้าซ้ายเหยียบแทมโบรีน และปากก็ร้องเพลงครับ (หัวเราะ)
ฝึกนานไหมกว่าจะเล่นได้คล่อง
ออมสิน : ก็งงๆ อยู่ประมาณ 2 เดือนครับ มันเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่งค้นพบว่าตัวเองทำได้ เลยทำมาเรื่อยๆ ใช้เวลาเกือบปีเพื่อจะทำให้มันไม่งง ซึ่งทุกวันนี้ความงงไม่มีแล้ว แต่เวลาไปเจอเพลงใหม่ๆ ก็ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าจะเล่นยังไงดี จะงงๆ แค่ช่วงแรก เพราะพอเล่นได้มันก็จะไหลไปได้เรื่อยๆ ด้วยความที่ผมเป็นมือกลอง เลยมีพื้นฐานในการแยกประสาท ทำให้ไม่ค่อยยากเท่าไหร่
ในอนาคตจะมีอย่างอื่นมาเพิ่มอีกไหม
ออมสิน : เคยพยายามจะทำนะ แต่รู้สึกว่ามันเหนื่อยเกินไป แบ่งให้น้องๆ ในวงทำบ้างดีกว่า (หัวเราะ)
อธิบายการใช้งานเครื่องดนตรีสไตล์ออมสิน
ออมสิน : จริงๆ ก็ใช้งานคล้ายกลองชุดเลย ผมจะเปรียบเท้าขวาเป็นกระเดื่อง เท้าซ้ายจะเป็นสแนร์ ส่วนกีต้าร์โปร่งผมไม่ได้เล่นยากมาก พยายามเล่นเป็นจังหวะคอยซัพพอร์ตวงอยู่ด้านหลังมากกว่า เพราะกีต้าร์จะมีบอยที่เป็นสีสันอยู่แล้ว
ครั้งแรกที่ขึ้นเวทีกับเครื่องดนตรีสามชิ้นนี้ รู้สึกยังไงบ้าง
ออมสิน : ตอนที่ทำวงนี้ขึ้นมา ก็ไม่ได้หวังจะไปเล่นที่ไหนเลยนะ แค่อยากเล่นเพลงที่ชอบกันสามคนนี่แหละ แต่ตอนนั้นบังเอิญว่ารุ่นพี่ให้ไปเล่นแทนที่ร้าน นั่นคือครั้งแรกที่เล่นดนตรีในรูปแบบนี้ รู้สึกตื่นเต้นและกังวลเพราะไม่เคยเล่นแบบนี้ที่ไหนมามาก่อนเลย เคยแต่ร้อง เล่นกีต้าร์ หรือตีกลองอย่างใดอย่างหนึ่งเฉยๆ ไม่เคยเอามารวมกันแล้วเล่นให้คนดู ตอนนั้นก้มหน้าก้มตาเล่นอย่างเดียวเลย (หัวเราะ) แต่พอเงยหน้าขึ้นมาคนทั้งร้านเขามองผมเป็นตาเดียว ประมาณว่าไอนี่มันทำอะไรของมัน (หัวเราะ) พอจบเพลงเขาก็ปรบมือกัน เลยรู้สึกว่ามันพอจะไปได้ว่ะ เป็นความรู้สึกดีนะ แบบพอจบเพลงแล้วรู้สึกว่าเราก็ทำได้ ภูมิใจในตัวเองเลย
ก่อนลงตัวเป็นเครื่องดนตรีสามชิ้นนี้ มีลองอย่างอื่นมาก่อนไหม
ออมสิน : ตอนนั้นมาแบบรอบตัวผมเลย มี Pad กลองไฟฟ้าด้วย แต่พอไปเล่นที่ร้านแล้วผมรู้สึกว่าเงินที่ได้ตอบแทนมา ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ (หัวเราะ) ทำขนาดนี้มันมากไป มันเกินไป สนุกตอนเล่นแต่ไม่สนุกตอนเก็บ (หัวเราะ) เพราะเก็บคนเดียว เลยเหลือลงตัวคือสามอย่างนี่แหละ
เล่นเครื่องดนตรีอะไรได้บ้าง?
ออมสิน : มี... Cello, Violin, Trumpet ที่พูดมาเนี่ย เล่นไม่เป็น! (หัวเราะ) หลักๆ ก็มี กลองชุด, กีต้าร์ ที่เล่นได้ไม่ค่อยเก่งหรอก, เปียโนพอได้บ้างนิดหน่อย แล้วก็ทรอมโบนที่เคยเล่นตอนมัธยม ส่วนดนตรีไทยเล่นระนาดเอกครับ
สิ่งที่ยากที่สุดในการเล่นเครื่องดนตรีคนเดียว 3 ชิ้น
ออมสิน : สิ่งที่ยากที่สุดน่าจะเป็นส่วนที่ 4 สำหรับผมเครื่องดนตรี 3 ชิ้นมันยังไม่ยากมากนะ แต่ถ้ามีอันที่ 4 คือการร้องเข้ามายิ่งต้องใช้สมาธิมากขึ้น ผมว่านักดนตรีหลายๆ คนน่าจะทำแบบนี้ได้ บอยก็เคยบอกว่าทำแบบผมได้ แต่พอต้องร้องเพลงด้วยจะแยกประสาทไม่ออก เล่นดนตรีด้วยร้องเพลงไปด้วยและต้องทำออกมาให้ดี นั่นแหละคือจุดที่ยากที่สุด
หลงรักเครื่องดนตรีชนิดไหนมากที่สุด
ออมสิน : ผมชอบกลองที่สุด เพราะตั้งแต่จำความได้ก็เอาถ้วยถังมาตั้งตีเล่นแล้ว แล้วผมเรียนจบเอกกลองด้วย หากินกับการตีกลองมาตลอด (หัวเราะ) แต่แค่ช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ที่มาทำวง Aomsin and The Boys รูปแบบการเล่นมันเปลี่ยนไป คนอาจจะจำว่าผมเล่นกีต้าร์หรือร้องนำ แต่ถ้ามีใครมาถามจริงๆ จะตอบว่าเป็นมือกลอง
เสน่ห์ของดนตรีคือ...
ออมสิน : เครื่องดนตรีแต่ละอย่างมันแตกต่างกันอยู่แล้ว ด้วยเสียง และลักษณะของมัน เสียงแต่ละโน้ตของแต่ละเครื่องมันทำให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป บอกยากนะ แต่คนฟังจะรู้เองว่าแต่ละชิ้นให้อารมณ์ความรู้สึกยังไง เพราะฉะนั้นเสน่ห์ของเขาคือความแตกต่างนี่แหละครับ
+ ตอนนี้ผลงานของ Aomsin and The Boys อยู่ในขั้นตอนที่ทุกคนใกล้จะได้ฟังกันแล้ว! ในปีนี้ได้ฟังกันแน่นอน