สมกับเป็นเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ สำหรับ “Chang Music Connection Presents MELODY OF LIFE 15” โดยเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างค่าย SPICYDISC (สไปร์ซซี่ ดิสก์) และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ซึ่งระเบิดความสนุกไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อลองวีคเอนที่ผ่านมา (11 – 13 ตุลาคม 2567) งานนี้ยังเป็นการรวมความสนุกของคอนเสิร์ตพร้อมด้วยการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่กับเราอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกแบ่งโซนให้ทุกคนได้เข้าไปสนุกกัน โดยเริ่มจากไฮไลท์ของงานที่ทุกคนรอคอยกับคอนเสิร์ต 4 เวที โดยเปิดประเดิมความสนุกกันตั้งแต่วันศุกร์ ที่ Indy Stage (อินดี้ สเตจ) กับ SQUID ON TOP (สควีด ออน ท็อป), THE GE (เดอะ จี), LNWZA0072535 (เทพซ่า0072535), JOHN NATTACHOT (จอห์น ณัฎฐโชติ), MOLON (โมลอน), OLIN MATTIBLUE (โอลิน แมตตี้บลู), SOBBOY (ซ็อบบอย), MAN IN PHARMACY (แมน อิน ฟามาซี), JUST IMPROVIZE (จัสอิมโพรไวซ์) และปิดท้ายวันแรกด้วย BEDROOM AUDIO (เบดรูม ออดิโอ) ที่มีแฟนเพลงมาร่วมชมกันล้นหลาม
ในส่วนของวันเสาร์ – อาทิตย์ เริ่มสตาร์ทกันที่ Idol Stage (ไอเดิล สเตจ) เปิดเวทีต้อนรับทุกคนกันตั้งแต่เที่ยงโดยมีศิลปิน TPOP ตัวเด็ดขึ้นมาโชว์กันแบบนอนสต็อปโดยมีแฟนคลับมายืนรอชมกันมากมายตั้งแต่วงแรกจนถึงวงสุดท้าย โดยเริ่มจาก KYLINZ (ไคลิน), NIKKO NIKKO (นิกโกะ นิกโกะ), DEADKAT (เดดแคท) ที่ได้รับเสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วเซ็นทรัลคอร์ท ตามมาด้วย THE GLASS GIRLS (เดอะ กลาส เกิร์ล), HATOBITO (ฮาโตะบิโตะ) มาพร้อมความสดใสสุดๆ หลังจากนั้นเป็นคิวของ AKIRA KURØ (อากิระ คุโระ) มาปลุกพลังให้ทุกคนได้สนุกไปด้วยกันกับเพลงของสาวๆ กลุ่มนี้ จากนั้นเป็นคิวของ NEVONE (เนฟวัน), WIZZLE (วิซเซิล), D-NA (ดีน่า), PRAESUN (แพรซัน) ในวันอาทิตย์ต้อนรับทุกคนด้วยสาวๆ จาก QUADLIPS (ควอดลิปส์) มาแจกความสดใสสมกับเป็นการเริ่มต้นวัน ต่อ ZOLAR (โซลาร์), HOOTOH (ฮูโต๋), KHAW (ข้าว), DARRAN (ดารัณ), JKA (เจก้า), MARKPOOM (มาร์คพูม), YEN (เยน), Bluetonic (บลูโทนิก) ศิลปินจากค่าย BUTTER (บัตเตอร์) ที่สลับผลัดเปลี่ยนขึ้นมาโชว์ด้วยกัน หลังจากนั้นส่งต่อเวทีให้กับ 4MIX (โฟร์มิกซ์), EMPRESS (เอ็มเพรส) เป็นสเตจที่ร้อนแรงมากๆ และครั้งแรกของ ศรราม น้ำเพชร พระเอกลิเกสุดฮอตบนเวทีเมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ ที่วันนี้พักการ้องกลอนมาจับไมค์ร้องเพลงเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแม่ยกที่เดินทางมาให้กำลังใจพระเอกคนดัง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเทศกาลดนตรีขนาดยักษ์ที่รักโลกที่สุดเป็นเวทีที่เปิดกว้างให้กับทุกแนวดนตรี หลังจากนั้นเป็นคิวของ Y2Z (วายทูซี), AUM TARISA (อุ้ม ธาริสา), The FIV5 (เดอะ ไฟว์) Musician Band จากสไปร์ซซี่ ดิสก์กับโชว์สุดพิเศษพร้อมแขกรับเชิญมาร่วมบรรเลงเพลงเพราะกับ JKA และ TINN (ติณณ์ นภาลัย) ปิดเวที Idol อย่างงดงาม
สลับออกไปด้านนอกกับ 2 เวทีเริ่มจาก Indy Stage (อินดี้ สเตจ) กับศิลปินอินดี้มีมือเยี่ยมมาวาดลวดลายให้ทุกคนได้เคลิ้มไปกับ MLSNW x J.RABBIT x ELEVEN (มิลลี่สโนว์ x เจแร็ปบิท x อีเลเว่น), KALIPSE (คาลิปซี่), FYEQOODGURL (ฝ้ายคู้ดเกิร์ล), CHILAX (ชิลแล็กซ์), LEMONY (เลมอนี่), TOFU (โทฟู), CLOCKWORK MOTIONLESS (คล็อกเวิร์ค โมชั่นเลส), YEP MAY YEP (เย็ป แม่ เย็ป), ELECTRIC.NEON.LAMP (อิเล็คทริค นีออน แลมป์), PURPEECH (เพอร์พีช) กับสวนทานตะวันที่เบ่งบาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ดเป็นการจบโชว์ของวันเสาร์แบบอิ่มเอมสุดๆ ส่วนวันอาทิตย์ของเวทีนี้เปิดด้วยวง THE PUBLISH (เดอะ พับบลิช), TWODAYS (ทูเดส์) และแม้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจแต่ก็ไม่ทำให้ความสนุกนั้นสะดุดลงได้ หลังจากฝนหยุดแล้วก็เป็นคิวของวง ADORA (อะดอร่า), NAP A LEAN (แนป อะ ลีน), BETTER WEATHER (เบสเทอร์ เวสเทอร์) ซึ่งมีแฟนๆ มารอชมกันแน่นพื้นที่ หลังจากนั้นเป็นโชว์จาก HARD BOY (ฮาร์ด บอย) กับพลังเสียงอันทรงพลังตามมาด้วยวง SHERRY (เชอร์รี่) ที่ทุกคนร้องเพลงไปด้วยกันดังลั่น ต่อด้วยวงรุ่นพี่อย่าง SLUR (เสลอ) ที่ไม่เน้นพูดเพราะพวกเขาเน้นมาโชว์ความสนุกกับแบบจัดเต็ม และปิดเวทีด้วย BLACKBEANS (แบล็คบีน)
เดินกลับเข้ามาภายในศูนย์การค้าที่ลาน Eden ที่เป็นจุดของ Indoor Stage (อินดอร์ สเตจ) เวทีนี้ก็หนาแน่นไม่แพ้เวทีอื่นด้วยไลน์อัพสุดมันเปิดเวทีด้วย JAIDEE (ใจดี), NSL (เอ็นเอสแอล), HUN$ICK (ฮันซิกซ์), CHALA DEEN x DINOPANDA (ชาลาดีน x ไดโนแพนด้า), PURPLECAT (เพอร์เพิลแคท), FUNKY WAH WAH Ft. UNKLE T. (ฟังกี้ วา วา ฟีท อังเคิ่ลที) มีเพื่อน – พี่ - น้อง ศิลปินมาร่วมแจมกันในโชว์นี้ไม่ว่าจะเป็น วิน สควีซแอนนิมอล, โต้ แนป อะ ลีน, ม่อน เพอร์เพิลแคท หลังจากนั้นก็เป็นคิวของ WIN SQWEEZ ANIMAL (วิน สควีซ แอนนิมอล) มาพร้อมเพลงที่ทุกคนรักและร้องตามกันได้ทุกเพลง ก่อนจะส่งต่อเวทีให้ ALLY (แอลลี่), GUNCHARLIE (กันชาร์ลี), SEASON FIVE (ซีซั่นไฟว์), FLOWERS PILLAR (ฟลาวเวอร์ พิลล่า), LA-ONG-FONG (ละอองฟอง) กับความสดใสตามแบบฉบับของพวกเขา ต่อด้วยวง KACHAIN (คเชนทร์) น้องใหม่จากค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ มาส่งต่อความรู้สึกดีดีให้กับทุกคนบนเวที หลังจากนั้นส่งต่อให้ MUTE. (มิ้วดอต), FAMOSO (ฟาโมโซ), TONHON (ต้นหน), TXRBO x WHAWHA (เทอร์โบ เอ็กซ์ หว่าหวา), PONCHET (พล เชษฐ์), NO ONE ELSE (โน วัน เอลส์) กับการปิดจบเวทีด้วยมวลคนคลั่งรักที่จับจองพื้นที่เพื่อมาตะโกนร้องเพลงรักของพวกเขากันสุดเสียง
ตัดมาที่ Outdoor Stage (เอ้าท์ดอร์ สเตจ) กับไลน์อัพที่ไล่ลำดับจากฟังสบายไปถึงความมันสุดเดือดโดยเริ่มจาก ROOFTOP (รูฟท็อป) ที่ชวนเพื่อนอย่าง เจเลอร์ มาร่วมแจมบนเวทีด้วยกัน ต่อด้วยวง THE RUBE (เดอะ รู๊ป) ที่ขอเพิ่มความพิเศษให้กับโชว์ด้วยทีมนักเต้นและนางรำกำกับการแสดงโดย "ครูกั๊กศิลปิน" จากกรมศิลปากร มาเรียกเสียงฮือฮาให้ผู้ชมได้ไม่น้อย หลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาของ SARAH SALOLA (ซาร่า ซาโลล่า), WAN THANAKRIT (ว่าน ธนกฤต), MVL FT. POKMINDSET (เอ็ม วี แอล ฟีท ป็อก มายด์เซ็ท) ซึ่งเป้ยังได้นำซิงเกิลใหม่ที่เพิ่งปล่อยมาโชว์เป็นครั้งแรกก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากแฟนๆ ที่มาชม ตามมาด้วยวง FREEHAND (ฟรีแฮนด์), YENTED (เย็น-เต็ด), PUN (ปัน) ขึ้นมาเป็นวงสุดท้ายของวันเสาร์ที่ผู้ชมยังคงหนาแน่นจนจบเพลงสุดท้ายเลยทีเดียว ส่วนในวันต่อมาเปิดเวทีด้วย SLAPKISS (สแล็ปคิสส์) และแม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจแต่ก็ไม่ได้ทำให้แฟนเพลงหนีหายกันไปเลยยังคงปักหลักรอชมโชว์กันแน่นขนัด และเมื่อคนดูไม่ถอยศิลปินก็ไม่ท้อกระโดขึ้นไปโชว์แบบจัดเต็มกับวง MOVING AND CUT (มูฟวิ่ง แอน คัท), THE PARKINSON (เดอะ พาร์คินสัน), SCRUBB (สครับบ์), LIPTA FT.FELLOW FELLOW (ลิปตา ฟีท เฟลโล่ เฟลโล่), F.HERO (เอฟฮีโร่), ONLY MONDAY (โอนลี่ มันเดย์) ที่มีแฟนเพลงร่วมร้องเพลงไปกับพวกเขาดังไปทั่วลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และ SLOT MACHINE (สล็อต แมชชีน) ปิดจบโชว์อย่างสวยงาม
อีกทั้งยังมีเรื่องของแฟชั่นมือสองในโซน Cheeze Market ได้รวบรวมร้านค้าของศิลปิน, ดารา, อินฟูเรนเซอร์ มาเปิดร้านขายในงานนี้ซึ่งลูกค้าจะต้องนำถุงมาใส่ของที่ซื้อเองเพราะทุกร้านงดการใช้ถุงเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนได้นำกลับมาใช้ซ้ำและไม่สร้างขยะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ไหนจะกิจกรรมจากทางผู้สนับสนุนที่ชวนทุกคนมาทำดีด้วยกันผ่านการให้ไม่ว่าจะเป็นกรบริจาคสิ่งของ, บริจาคเลือด, บริจาคพลาสติกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการงานศิลปะ ในคอนเซปต์ "THE EARTH BREATHES" - Where music meets nature จากนิสิตนักศึกษาจาก คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง รวมไปถึงกิจกรรมที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ สกรีนโลโก้ศิลปิน จาก Central Tham ก็ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเข้ามาร่วมสกรีนเสื้อกันมากมาย ซึ่งรายได้จากการขายเสื้อจะถูกนำไปบริจาคเข้าโครงการ Plant Together (ปลูกป่าที่จังหวัดน่าน)
เป็นอีกหนึ่งงานที่เอ็มอิ่มในทุกอรรถรสได้ทั้งความสนุกและการได้รักโลกไปพร้อมกันในงานเดียว ขอบคุณทุกศิลปิน, ค่ายเพลง, ผู้สนับสนุนทุกท่านที่มาร่วมสร้างสรรค์งานดีดีแบบนี้ร่วมกันแล้วพบกันใหม่ในปีหน้ารับรองว่ามันจัดเต็มอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่อยากชมภาพความประทับใจของ “Chang Music Connection Presents MELODY OF LIFE 15” สามารถเข้าไปชมภาพได้ที่ https://www.facebook.com/MelodyOfLife.Festival
หรือ https://www.facebook.com/Spicydiscrecord