บ่ายวันจันทร์ที่อากาศ โค-ต-ร ร้อน แดดที่เราสัมผัสนั้นไม่น่าจะได้รับวิตามิน D เลย เพราะร้อนจนแสบผิว ถ้าไม่มีงานสำคัญจะไม่มีวันออกมาจากออฟฟิศแน่ๆ แต่เพราะมีนัดหน่ะสิเลยต้องออกมา ขณะที่ในใจบ่นให้กับความร้ายกาจของแสงแดดอยู่นั้น เสียงไลน์ก็ดังขึ้นพร้อมกับปรากฏข้อความว่า 

“นั่งคุยกันที่ร้าน ... Outdoor ดีมั้ยคะ” 

“…” 

ห้ะ? Outdoor!? นี่เพิ่งบ่นว่าร้อนไปหมาดๆ ต้องไปเผชิญกับความร้อนอีกแล้วหรอเนี่ย แต่สุดท้ายก็ตอบกลับไปว่า 

“ได้เลยค่ะ ^^” 

ด้วยความเกรงใจ และสักพักก็นึกขึ้นได้ว่าเธอคนนี้ชอบแดดเอามากๆ โดยเฉพาะแดดที่ทะเล...

มาถึงจุดนัดพบเรากับพี่ๆ ทีมงานนั่งจิบชามะนาวได้สักพัก ก็เหลือบเห็นผู้หญิงผิวแทนสวย ตัวสูงตามมาตรฐานนางแบบเดินมาแต่ไกล นั่นไง “ติว - ดิษยา” นักร้องนำวง Kidnappers เดินมานู่นแล้ว

หลังจากที่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจจากการจราจรที่ติดขัดในช่วงบ่ายแก่ๆ ของถนนทองหล่อสักพัก เราก็เริ่มคำถามแรกทันที...

ดูจาก IG แล้ว เพิ่งกลับมาจากทะเลหมาดๆ เลย
ใช่ค่ะ เป็นแคมเปญของ RipCurl ที่เขาจะจัดขึ้นทั่วโลกเลย เป็นงานของผู้หญิงล้วน ชื่องานว่า ‘RipCurl Girls go Searching 2018’ แต่ปกติแล้วเขาจะพาไปเล่นเซิร์ฟคืองาน ‘RipCurl Girls go Surfing’ แต่ครั้งนี้จัดงานก่อน และช่วงนี้เมืองไทยเราเซิร์ฟไม่ได้ เพราะคลื่นไม่แรงพอ เลยเปลี่ยนเป็นการทำกิจกรรมอื่นๆ แทน แต่ก็ยังได้ไปทะเลเหมือนเดิม ครั้งนี้ถูกเชิญให้ไปในนามของ Suntanteam (ซันแทนทีม) ก็ไปกันเกือบทั้งแก๊งเลย 10 กว่าคน

ตอนนี้ Suntan Team มีทั้งหมดกี่คน

อืมมม (คิด) ก็เป็นเพื่อนในกลุ่มนั่นแหละประมาณ 10 กว่าคน แต่จริงๆ แล้วก็มีเพื่อนของเพื่อนมาจอยกันเพิ่มอีกเรื่อยๆ ไม่ได้ฟิกว่าจะมีได้แค่จำนวนเท่านี้ ก็จะมีเพื่อนหน้าใหม่ๆ ไปร่วมทริปตลอด เป็นกลุ่มเพื่อนเรานี่แหละ ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน

 Suntan Team เกิดขึ้นได้ยังไง

เริ่มแรกคือมีเพื่อนคนนึงมาชวนไปดำน้ำแบบ Freediving (การดำน้ำโดยไม่ใช้ถังออกซิเจน) 2-3 ทริปแรก ไปกันไม่เยอะมาก แล้วทริปหลังๆ ก็เริ่มมีเพื่อนมาร่วมทริปมากขึ้น เป็นแก๊งหญิงล้วนที่ชอบถ่ายรูปมาก รูปก็มีเริ่มเยอะขึ้นทุกวันๆ มีทั้งรูปใต้น้ำ รูปบนบก ทั้งวีดีโอ ทั้งภาพนิ่ง เลยมานั่งคิดกันว่าถ้าลงหมดเนี่ยจะกลายเป็นว่า IG ส่วนตัวกลายเป็น IG นักดำน้ำไป (หัวเราะ) เลยทำ IG Suntanteam ขึ้นมา ที่มามีแค่นี้เลยคือหาที่ระบายรูป ชอบอาบแดดกันด้วยก็เลยกลายเป็นนี้ ก็เริ่มทยอยเอารูปดำน้ำไปลง

มีบางคนเข้าใจผิดระหว่าง Suntanteam กับ Suntan Tour (ซันแทนทัวร์) คือ Suntan Tour เกิดขึ้นจากหนึ่งในกลุ่มเริ่มอินมาก อยู่แต่ทะเลจนแทบไม่ได้อยู่กรุงเทพเลย ก็เลยไปเปิดทัวร์ดำน้ำ และใช้ชื่อว่า Suntan Tour แต่ว่าเป็นของเขาคนเดียวไม่ได้เกี่ยวกับเรา ส่วน Suntanteam ทำขึ้นมาสนุกๆไม่ได้ทำเพื่อการค้าขายอะไร แต่ก็จะมีลูกค้าบ้างที่ทักมาเชิญเราไปงานเกี่ยวกับซัมเมอร์นั่นนี่นู่น เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า แต่จุดประสงค์ของเพจจริงๆ วางไว้ว่าให้มันเป็น community ของคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน แต่ถ้ามีใครสนใจที่จะเชิญเราไปไหนในนามของ Suntanteam เรากับเพื่อนๆ ก็ยินดีมากเลยค่ะ

คือกลุ่ม Freediving โดยเฉพาะ?

หลักๆ ก็เป็นกลุ่ม Freediving เพราะตรงนั้น เราหัด Freediving กันเองอย่าทำตามนะคะ ไปเรียนก่อนดีกว่า (หัวเราะ) แล้วตอนนั้นเวลาที่เราลงรูปไปก็มีคนเข้ามาถามเยอะมาก สักพักมีคนเริ่มสนใจมากขึ้น เราเองก็เริ่มตอบคำถามไม่ถูกละ ว่ามันคืออะไรยังไง เพราะเราไม่ได้เรียนมาแบบถูกต้อง จุดนี้แหละก็เลยเป็นการจุดประกายให้เราไปเรียน Freediving แบบจริงจัง เพื่อที่จะสามารถตอบข้อสงสัยของคนที่สนใจจริงๆ ได้ สุดท้ายตัดสินใจไปที่เกาะเต่า เพื่อที่จะไปเรียน Freediving ที่ถูกต้อง แล้วพวกเราก็ได้บัตร Freediver certification มาแล้วด้วย (ยิ้ม) หลังจากนั้นเลยรวมทริปไปกันเองได้บ่อยขึ้น เพราะมีบัตรแล้ว อยากให้ไปเรียนก่อนแล้วค่อยเริ่มดำเอง เพราะถ้าไม่รู้วิธีที่ถูกต้องมันอาจจะเป็นอันตรายมาก คนที่จะเรียน Freediving ไม่จำเป็นต้องเรียนดำน้ำแบบ Scuba มาก่อน ไม่จำเป็นเลยยย (ลากเสียงยาว) เพราะว่าไม่เหมือนกันตั้งแต่อุปกรณ์แล้ว วิธีการลงน้ำก็ไม่เหมือน พอเราไปเรียนก็จะรู้เทคนิก การทำสมาธิก่อนลง วิธีการหายใจ วิธีเก็บลมหายใจ ก็ทำให้เราปลอดภัยขึ้น

Freediving คือจุดเริ่มต้นในการดำน้ำเลยรึเปล่า?

ก็ไม่เชิงนะคะ เพราะว่าส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบกิจกรรมทางน้ำ ชอบทะเลอยู่แล้ว แต่เริ่มไปกับเพื่อนบ่อยขึ้นช่วงที่เราเพิ่งเรียนจบ เวลาที่ไปทริปกันความผูกพันก็เพิ่มมากขึ้น เพราะเราไปสนุกกัน พยายามหากิจกรรมการทุกคนก็จะชอบ แล้วก็เพิ่งมารู้ว่าเวลาที่เราไปทำกิจกรรมด้วยกันที่ทะเลมันดีมาก ความรู้สึกดีมากแล้ว Freediving ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ผูกพันกันอยู่ ก็เลยรู้สึกว่าอยากจะไปทะเลตลอด เพราะทะเลมีอะไรให้เราเล่นตลอด ก็เลยค่อยๆ เริ่มจริงจังมาเรื่อยๆ

สำหรับคุณ Suntanteam คืออะไร?

สำหรับเรา Suntanteam คือสิ่งที่ทำให้กลุ่มเพื่อนของเราแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เป็นที่ยึดเหนี่ยวของพวกเรา เป็นสิ่งที่ดีนะที่เรามีอะไรที่ชอบร่วมกัน แล้วก็มีคนอื่นมาชอบในสิ่งที่เราชอบทำร่วมกันด้วย ตอนนี้ทุกคนใน Suntanteam ดีใจมากที่มีคนชอบในสิ่งเดียวกันมากขึ้น จากตอนนั้นที่เปิด IG ก็เริ่มมาเปิด Fanpage ใน Facebook 

โพสต์แรกกระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง

  โอ้โห! เพื่อนๆ กรี๊ดมาก Line เด้งไม่หยุด กรี๊ดกันทั้งวันเลย ตื่นเต้นและก็ดีใจมาก แต่ด้วยความที่ทุกคนก็งานเยอะมากเพจเลยไม่ค่อยได้อัพเดทอะไร ทิ้งไว้ยาวๆ เลย (หัวเราะ) โพสต์แรกของเพจเราเป็นคนเขียนเองเลยนะ (หัวเราะ) เราก็พยายามใช้คำที่ดูวัยรุ่นหน่อย คุยกับเพื่อนว่าไม่อยากจะใช้คําเป็นทางการมาก งั้นฉันจะใช้คำที่มันดูเป็นเพื่อนสาวหน่อยแล้วกัน (หัวเราะ) คนอ่านจะได้สนุกสนานไปกับเรา แล้วคนแชร์เยอะมาก (เสียงตื่นเต้น)

ความรู้สึกตอนที่อยู่ใต้น้ำกับบนบกต่างกันยังไง

ตอนที่อยู่ใต้น้ำความรู้สึกในน้ำมันก็สบายแล้ว Freediving ก็ไม่มีอะไรเกะกะตัว เรากับเพื่อนชอบแต่งตัวก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีชูชีพ หรือว่ามีอุปกรณ์อะไรประหลาดๆ อยากใส่อะไรก็ใส่ ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนก็ได้เพราะว่าทะเลบ้านเราไม่ได้หนาว ลงไปอยู่ใต้น้ำมันก็เป็นอิสระไม่ได้ยินเสียงอะไรวุ่นวาย คอยลุ้นว่าจะเจออะไรตื่นเต้นข้างล่าง แต่พอขึ้นมาแล้วเราก็จะมีการพูดคุยกันว่าทำท่ายังไงถึงจะสวย หรือว่าท่าไหนลงไปแล้วมันจะอยู่ได้นาน นอกจากพูดถึงตัวเองแล้วก็มีการพูดถึงเรื่องธรรมชาติมากขึ้น ดำลงไปเห็นว่าแบบตรงนี้เป็นยังไง ปะการังตรงนี้เป็นยังไง ก็กลายเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่เราทำกัน

ไปกับ Suntan eam ครั้งไหนประทับใจที่สุด

ประทับใจทุกครั้งนะคะ เพราะมันมีเรื่องราวทุกครั้ง แต่ถ้าให้เลือกก็หมู่เกาะสุรินทร์ เพราะไปบ่อยที่สุด ที่นั่นสงบมากและให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเลย แล้วเราก็ไปผูกพันกับชาวมอแกนที่นั่น เราก็ไปเล่นกับเด็กๆ ไปเปิดเพลงให้เขาเต้น ตอนนี้เด็กๆ ที่เกาะร้องเพลง Kidnappers ได้เกือบทุกคน เพราะเราไปเปิดให้ฟัง แล้วก็ไปสอนเต้น ยืนแถวเต้นกัน เหมือนเป็นคุณครูอนุบาลเลย (หัวเราะ)

ประสบการณ์การดำน้ำต่างประเทศ

เคยไปที่โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น แต่ว่าตอนนั้นไปแล้วพายุเข้าหนักหนักมาก (หัวเราะ) เกือบจะไม่รอดตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินแล้ว พายุก็เข้า เครื่องบินก็ลงจอดไม่ได้ ปีกเครื่องบินคือเซไปเซมา หัวใจจะวาย (เสียงตื่นเต้นมาก) พายุเข้าตลอดทริป จนวันสุดท้ายมีแดดออกก็เลยได้ดำน้ำนิดนึง 15 นาทีก็ขึ้นแล้ว ขอแค่ให้ได้ลงน้ำ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็มีแพลนว่าอยากจะไปฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย,บาหลี, มัลดีฟ  แต่ก็ต้องศึกษาก่อนว่ามีจุดที่ใดลงได้หรือเปล่า เพราะว่าเท่าที่เคยเห็นมาจะมีแต่จุดที่ลงแบบ Scuba ลึกๆ ลงไปเลย พม่าก็ไปมาแล้วนะ แต่ก็คิดว่าประเทศไทยสวยกว่าอยู่ดี (ยิ้ม) ที่พม่ามีข้อดีคือไม่ค่อยมีเรือนักท่องเที่ยวเยอะ นึกว่าเขาปิดเกาะให้ มีเรือเราลำเดียวเลย แต่เขาไม่ได้ปิดเกาะให้นะ ก็จะได้ความพิเศษตรงนั้น 

จริงๆ แล้วเกาะสิมิลันสวยมากนะ แต่บางทีที่เราไปมีเรือประมาณ 40 ลำอะ! (หัวเราะ) บังทุกอย่างหมด นักท่องเที่ยวก็ยื่นไม้เซลฟี่แข่งกันใหญ่เลย ดำลงไปตอนขึ้นมาก็ไม่รู้จะเจออะไร ไม่รู้จะเจอไม้เซลฟี่หรือว่าจะเจอหางเรือบาดหัวรึเปล่า น่ากลัวมาก (หัวเราะ)

เสน่ห์ของ Freediving คืออะไร

คือความอิสระ ความสบายตัว ในน้ำเราอยากจะทำอะไรก็ได้ ได้ทำอะไรที่เราอยากทำ ไม่รู้สิเหมือนมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย ไม่ต้องคอยพะวงกับอุปกรณ์ มีกฎแค่ข้อเดียวที่สำคัญมากๆ คือ Never Diving Alone คือห้ามดำน้ำไปคนเดียว ต้องมีบัดดี้ ถ้าจะดำน้ำต้องมีอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป ถ้าไปคนเดียวมันอันตรายมาก ตอนที่ไปเรียนก็จะไม่ได้เรียนแค่ดำน้ำอย่างเดียว จะได้เรียนการ Safety ด้วย เราต้องรู้ว่าจะช่วยชีวิตเพื่อนได้ยังไง เพื่อความปลอดภัย Freediving เป็นการกลั้นหายใจมันก็จะมีอาการ Black Out เกิดขึ้นเวลากลั้นหายใจนานๆ ปลอดภัยที่สุดก็คือต้องมีบัดดี้ไปคอยดูช่วยกันดู

เทคนิคของ Freediving คือ

สมาธิค่ะ และอีกอย่างคือต้องรู้จักร่างกายตัวเอง เวลามีคนมาถามว่าอันตรายไหม เราก็ตอบไม่ถูก ส่วนมากที่จะดูอันตรายมากๆ ก็คือจะเป็นกับมือโปรคำว่าเขาจะลงไปลึกมากแบบ 20-30 เมตรเลย แต่อย่างพวกเราดำแบบสนุกๆ กับแก๊งเพื่อนก็ไม่เกิน 10 เมตร แป๊บเดียวก็ขึ้น เลยไม่มีปัญหาอะไรมาก ไม่ได้หักโหมอะไร มากสุดก็ขึ้นจากน้ำแล้วเหนื่อยกว่าปกติ แค่นั้นเอง

Freediving ให้อะไรกับคุณบ้าง

อย่างแรกก็สมาธิ ทำให้เราโฟกัสอะไรมากขึ้น ทำให้เราก็รู้จักพัฒนาตัวเอง ได้ดูแลสุขภาพมากขึ้น แล้วก็รักธรรมชาติมากขึ้น อีกอย่างคือเราทำงานอยู่ในเมืองเครียดๆ พอได้ไปดำน้ำก็ทำให้เราสงบยิ่งขึ้น

ฝากถึงคนที่ไปเที่ยวทะเล

คนที่ไปเที่ยวบางคนก็จะไม่ค่อยรักษาธรรมชาติ ยิ่งช่วงนี้กระแส Freediving กำลังมา แล้วเราเคยเห็นดราม่าอยู่ครั้งนึงที่ใครก็ไม่รู้ไปถ่ายรูปใต้น้ำ ไปยืนบนโขดหิน ยืนบนปะการัง แอบกลัวเหมือนกันว่าจะมีคนมาพาดพิงถึงกลุ่มเรา แต่เราไม่เคยแตะต้องปะการังใต้น้ำเลย เราดำน้ำเล่นแต่เราไม่เคยไปจับต้องปะการังเลย ก็อยากจะฝากให้ช่วยกันดูแลด้วย Freediving ก็ถือว่าเป็นอะไรใหม่ๆ ที่สามารถมาลองเล่นลองทำกันได้ แต่ว่าอยากให้คิดอะไรมากกว่าการที่เราได้ลงมาเล่นแล้วก็ได้ถ่ายรูป อยากให้การลงไป 1 ครั้งทำให้เรานึกถึงธรรมชาติ นึกถึงคนที่จะมาเที่ยวต่อจากเราด้วย บางทีเราศึกษามาก่อนที่จะลงน้ำ รู้มาว่าตรงนั้นปะการังสวยมาก แต่ปรากฏว่าเราเห็นตอนที่ปะการังฟอกขาวหมดแล้ว ก็ฝันว่าอยากจะให้ดำน้ำตื้น แล้วได้เห็นปะการังสีสวยๆเหมือนกับทะเลที่เมืองนอกบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ก็อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ค่ะ บางทีดำลงไปเจอขยะก็มี เราเคยไปเก็บขยะชายหาด เหนื่อยมากแล้วก็ได้ขยะเยอะมาก หลายกิโลเลย เห็นแล้วก็เซ็งๆ เสียดาย (หัวเราะเจื่อนๆ)

จากตอนแรกที่เราแค่รู้สึกว่าสนุกกับดำน้ำ หลังๆ เราก็เริ่มรู้สึกอินมากขึ้น ในแก๊งเพื่อนก็เริ่มคุยเรื่องธรรมชาติมากขึ้น เริ่มมีความเข้าใจนักอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะว่าเวลาไปทริปเราไป 6-7 วันได้ใช้เวลาอยู่กับทะเลนานมาก ได้คุยกับคนท้องถิ่น เลยทำให้เรารู้สึกค่อยๆ กลายเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ