ถ้าแสงแดดยามเช้าคือการบ่งบอกถึงความสดใสของวันใหม่
เสียงของเธอคนนี้ก็คงไม่ต่างจากความสดใสของช่วงเวลานั้น
และบุคคลที่เรากำลังกล่าวถึงนั่นก็คือ ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ หรือที่ทุกคนเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า
“ฟาง เฟย์ฟางแก้ว” บางคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพของการเป็นนักแสดง, พิธีกร
ที่เจ้าตัวเป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ภายใต้บทบาทหน้าที่เหล่านั้นก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่
ฟาง ยังคงคิดถึงและอยากทำมันเสมอก็คือการได้ร้องเพลง
จริงอยู่ว่าเธอยังคงมีงานร้องเพลงบ้างแต่ส่วนก็จะเป็นเพลงประกอบละครต่างๆ ที่เธอแสดง
แต่ภายในใจลึกๆ นั้น
ฟางเองก็อยากที่จะลองทำโซโล่ของตัวเองออกมาสักครั้งแต่ด้วยหลายๆ ปัจจัยทำให้ต้องพับเก็บโครงการนี้เอาไว้ก่อน
เหมือนโชคชะตานำพาไป...เมื่อ
คุณเต้ง พิชัย จิราธิวัฒน์ บอสใหญ่จากค่าย สไปร์ซซี่ดิสก์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับฟางในเรื่องต่างๆ
และหนึ่งในหัวข้อการสนทนานั้นก็มีเรื่องการทำเพลงพร้อมชวนฟางได้เข้ามาอยู่ด้วยกันภายใต้บ้านหลังนี้
นั่นจึงเป็นการจุดประกายความฝันของฟางขึ้นมาอีกครั้ง
แต่อย่างที่บอกว่าการออกโซโล่นั้น ไม่เหมือนกับการทำงานเป็นกลุ่มจึงเป็นอีกเรื่องที่
ฟาง ค่อนข้างหนักใจประกอบกับตัวเธอเองก็ออกมาเป็นศิลปินอิสระอยู่หลายปีจึงยังไม่มีความมั่นใจว่าควรไปต่อทางไหนดี
จึงได้ใช้เวลาในการตัดสินใจอยู่นานกว่าจะตอบรับคำเชิญ
และได้มาเป็นศิลปินภายใต้บ้านหลังใหม่แห่งนี้
นั่นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นแต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่ดี
เพราะ สไปร์ซซี่ดิสก์ ถือเป็นค่ายเพลงที่ครบครันไปด้วยทรัพยากรบุคคลคนคุณภาพ
จึงทำให้การทำงานเดี่ยวครั้งแรกเป็นไปด้วยความสมูท โดยได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง ฟังกี้
วา วา และยังได้ โต้ แนป อะ ลีน มาช่วยในการแต่งเนื้อร้อง
ที่เนื้อหาของเพลงทั้งหมดจะเป็นการถ่ายทอดตัวตนของฟางที่ทุกคนคุ้นเคยกับภาพของผู้หญิงตัวเล็ก
เสียงหวาน น่าทะนุถนอม แต่ในการกลับมาครั้งนี้คุณจะได้เห็นตัวตนอีกมุมหนึ่งของ ฟาง
ที่มีความซุกซน ขี้เล่น
เป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่กล้าแสดงออกในเรื่องของความรักที่ไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งจนเกินไป
มีแอบใบ้ให้อีกฝั่งได้รู้ว่า ฉันชอบเธอนะ ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกกลั่นออกมาเป็นเพลงป็อบ
ฟังสบาย เข้าใจง่าย
และเพลงแรกที่ทุกคนจะได้ฟังนั่นก็คือเพลง Honey Honey