Profile Artist: Be Peerapat
ถ้าจะเอ่ยถึงนักร้องชายคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ในเมืองไทยต้องมีชื่อของ
บี พีระพัฒน์ เถรว่อง อยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เขาคือศิลปินอาร์ แอนด์ บี
ผู้มีเสียงอันทรงพลังเข้าถึงอารมณ์ในทุกประโยคที่เปล่งเสียงออกมา จนถูกยกให้เป็น
ดีโว่ ระดับประเทศ หากให้ไล่ถึงผลงานของผู้ชายคนนี้ต้องขอย้อนไปในปี 2541 บี
ได้เข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด GMM Grammy วง RRR&B
พอหลังจากหมดสัญญากับทางแกรมมี่ก็ผันตัวมาทำวงร่วมกับเพื่อนๆ ในนาม Crescendo (เครสเชนโด) มีเพลงดังมากมายอาทิ ความจริงในใจ,
วีนัส, โลกหมุนด้วยความรัก, ดินแดนแห่งความรัก, รู้บ้างไหม ต่อมามีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง 3
อัลบั้มกับ Dedicated To Love ในปี 2551, อัลบั้ม Medium rare ในปี 2552 และอัลบั้ม B3 ในปี 2557 โดยมีเพลงดังที่ทำให้ทุกคนจดจำชื่อของบี
พีระพัฒน์ จนถึงปัจจุบันกับเพลง รู้, พูดตรงๆ รวมถึงยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากเวที
สีสัน อวอร์ด
ระหว่างนั้นนอกจากงานเพลงแล้ว บี พีระพัฒน์
ยังได้มีโอกาสจับงานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการร้องเพลงทั้งละครเวที และซีรี่ย์
ออกมาให้แฟนๆ ได้เห็นถึงความสามารถทางด้านอื่น
ก่อนจะกลับมาสร้างความเซอร์ไพร์สทุกคนอีกครั้งด้วยการเข้าร่วมรายการ The
Mask Singer ซีซัน 2 กับหน้ากาก เสือจากัวร์
และหลังจากเปิดหน้ากาก บี ได้มีผลงานออกมาให้ฟังกับเพลง "นานนาน" featuring THE
PARKINSON × PAM GAIA
New Song; New Home
เพราะดนตรีคือส่วนหนึ่งในชีวิตที่ไม่เคยห่างหายไปจากผู้ชายที่ชื่อ
บี พีระพัฒน์ แม้ว่าเราอาจจะไม่ค่อยเห็นผลงานใหม่ๆ
จากเขาแต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะทำสิ่งที่เขารัก นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ บี
กลับมาลุยทำเพลงใหม่อีกครั้งกับบ้านหลังใหม่ Spicydisc ผ่านการชักชวนจากคุณพิชัย จิราธิวัฒน์ บอสใหญ่ของค่าย
และหลังจากที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน บี
ได้เดินหน้าทำเพลงแรกออกมาให้ได้ฟังกับเพลง ไม่ใช่ของเรา ที่ได้บุคลากรมือหนึ่งของวงการดนตรีอย่าง
ณฐพล ศรีจอมขวัญ มาดูแลในพาร์ทดนตรี และ
บอย ตรัย ภูมิรัตน เป็นคนแต่งเนื้อร้องให้
แต่นั้นก็เป็นเพียงก้าวแรกของการกลับมาของผู้ชายคนนี้เท่านั้น
เพราะหลังจากนี้เขายังได้เตรียมเพลงอื่นๆ ไว้ให้ทุกคนได้ฟังจนหายคิดถึง ก่อนขจะส่งซิเกิลถัดมากับ
ความทรมาน เพลงอกหักเพลงสุดท้ายจาก บี พีระพัฒน์ เถรว่อง
กับเรื่องราวของความรักที่แม้จบลงไปแล้วแต่ยังคงสร้างบาดแผล
ให้เจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา จมอยู่ในความคิดวนๆ
อยู่ในหัวถึงเรื่องของเธอสองคนในทุกครั้งที่หลับตาลงก็เห็นเป็นภาพของ เธอทั้งคู่กอดจูบกัน
ทั้งที่ที่ตรงนั้นเคยป็นของฉันมาก่อนแต่ในวันนี้มันไม่มีอีกแล้วเหลือเพียงความทรมานที่เกาะกินในใจ
และเพื่อเป็นการดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์แบบขั้นกว่าด้วยการร่วมงานกับ NINO (นีโน่–เกริก
ชาญกว้าง) โปรดิวเซอร์ที่ฮอตที่สุดใน
พ.ศ.นี้มาช่วยแต่งแต้มในพาร์ทดนตรี
ในสไตล์ TRAP – R & B ให้มีความสมูทมากยิ่งขึ้น
ผสานไปกับไรม์แร๊พเท่ห์ๆ จาก ไมยราพ
ที่พาให้ทุกคนได้เข้าใจถึงความทรมานนี้ได้อย่างแจ่มแจ้งที่สุด
